วันศุกร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

Farm Festival 4 : เทศกาลดนตรีแห่งขุนเขา ณ ฤดูหนาว


เหลือเวลาอีกแค่ วันนี้และวันพรุ่งนี้ เท่านั้น
กับเทศกาลดนตรีแห่งขุนเขา Farm Festival No.4
เมื่อวานนี้ ได้ข่าวว่ายอดคนไปเที่ยวที่งาน นับได้มากกว่า 50,000 คน 
ถือเป็นสถิติใหม่ของเทศกาลฟาร์มเฟสติวัลเลยก็ว่าได้

เมื่อวานนี้ ผมเองก็ได้มีโอกาสไปเยี่ยมชมงานมา จึงอยากจะมาเล่าบรรยากาศซะหน่อย
ผมถือว่าเป็น แฟนพันธ์แท้ ของ ฟาร์มเฟสติวัล ที่ ไร่บุญรอด เชียงราย เลยก็ว่าได้
ไปทุกปี ตั้งแต่ครั้งแรก ครั้งที่สอง ครั้งที่สาม และครั้งที่สี่นี้
ผมเห็นความเปลี่ยนแปลงของที่นี่ ในทุกๆปีที่ได้ไปสัมผัสบรรยากาศมา

ขอแบ่งเป็น 9 สิ่งที่ต้องห้ามพลาด กับ 9 สิ่งแนะนำในการไปเที่ยวฟาร์มเฟสติวัล ละกันนะ 

9 สิ่งที่ต้องห้ามพลาดในการไปฟาร์มเฟสฯ
1.
ชื่นชมวิวธรรมชาติและความงามของไร่บุญรอดก่อนตะวันตกดิน

2.
ไร่ชา ที่นี่ก็มีนะครับ

3.
ปั่นจักรยาน ท่องเที่ยว ณ ไร่บุญรอด

4.
ถ่ายรูปกับ รูปปั้นสิงห์ยักษ์ ที่หน้าไร่ฯ ตรงทางเข้าเลยครับ

5.
จะมีการจัดกิจกรรม advanture ต่างๆ มากมาย ทุกปี
วิ่งวิบากบุกน้ำลุยโคลน (เห็นมาสองปีละ)
ปั่นจักรยานชมไร่ (เห็นมาสองปีละ)
โดดหอสูง (เพิ่งมีปีนี้ หอสูงใช่เล่น)

6.
ขึ้นบอลลูนชมวิวมุมสูงของไร่บุญรอด

7.
เล่นเกมตามบู๊ทต่างๆ ถ่ายรูปกับสาวๆน่ารักประจำบู๊ท และรับของรางวัล (ถ้าได้)

8.
พาเพื่อนๆ ครอบครัว คนรัก ไปสร้างความทรงจำดีๆร่วมกัน หนึ่งปีมีหนึ่งหนเท่านั้นนะ

9.
พระเอกของงาน คือ จิบเบียร์ ฟังดนตรีสดจากศิลปินมีชื่อที่เราชื่นชอบ ไม่ซ้ำหน้ากัน
โดยไม่มีค่าเข้าชมงาน .... It's FREE!!!
และทานอาหารที่จำหน่ายตามซุ้มต่างๆ

---------------------------------------------------------------------

9 สิ่งแนะนำในการไปเที่ยวฟาร์มเฟสติวัล
1.
ถึงจะจัดหน้าหนาว แต่จริงๆแล้วในงานไม่หนาวนะ 
ถ้าจะเอาชุดกันหนาวไป ไม่ต้องใส่ชุดกันหนาวหนาเกินไปละ 

2.
กินข้าวจากข้างนอกก่อนไปในงาน จะประหยัดได้มาก
อาหารในงาน จะแพงกว่าข้างนอกนิดหน่อย ถือว่า ช่วยๆพ่อค้าแม่ขาย
สำหรับ คนที่ชอบกินกับเยอะๆเวลากินเหล้า กินไปก่อนจะช่วยลดรายจ่ายได้เยอะ

3.
เวลาแนะนำในการเดินทางไปไร่บุญรอดด้วยรถยนต์
ควรเป็นช่วง ก่อน 4-5 โมง เพราะรถไม่ติด ที่จอดรถเยอะ และได้ถ่ายรูปก่อนมืด
ถ้าไปสาย ก็หลีกเลี่ยงช่วง 5-7 โมง เพราะคนจะแห่แหนกันมาเยอะเลย
แต่ถ้าจำเป็นต้องมาเวลาดังกล่าว แนะนำให้ไปทางเส้นเชียงราย-พะเยา แล้วเข้าไปทางวัดร่องขุ่น
หรือ จะไปโดยมอเตอร์ไซด์ ก็น่าจะเป็นอีกวิธีที่น่าสนใจนะ ผมว่า

4.
เตรียมเงินมาให้พอ เพราะ ถ้าเกิดเงินหมด อาจจะสะดุด ขาดช่วงได้

5.
เมาไม่ขับ ว่างแผนดีๆ

6.
ถ้าอยากใกล้ชิดนักร้อง ให้ไปจับจองหาที่นั่งหน้าเวที ไม่ต้องไปนั่งโต๊ะหรอก
เพราะเมื่อนักร้องที่ท่านชื่นชอบมา คนแน่นมาก เบียดเสียดเข้าไปได้ยาก

7.
ถ้าไม่ชอบเบียดเสียดคนเยอะ มีที่นั่งทานเยอะอยู่ แต่ต้องไปไวหน่อย คนมาจองโต๊ะเยอะ
มีจอมอนิเตอร์ ที่ถ่ายบรรยากาศบนเวที ไว้ให้รับชมได้ทั่วงานนะ

8.
แนะนำให้ไปเดินชมบรรยากาศการจำหน่ายอาหารตามซุ้มต่างๆ เป็นบรรยากาศที่ดีนะ

9.
เวลานัดหมายกับเพื่อน ให้นัดเจอในงานเลยก็ได้ หากันไม่ยาก มันไม่ได้กว้างอย่างที่คิดหรอก

วันอาทิตย์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

ออกไปใช้ชีวิต ออกไปสัมผัสมันด้วยตัวเราเอง


ภาพที่ไม่ต้องอธิบายอะไรมาก

การถ่ายรูปของผม หลังๆมานี้ จะเป็นรูปที่จะสื่อถืออะไรบางอย่างเสมอๆ
โดยจะพยายามลดคำอธิบายรูปให้น้อยลง หรือ ไม่มีเลยจะเยี่ยมมาก

หลายๆครั้ง ที่ผมได้เปิดดูรูปเก่าๆที่ถ่ายไว้ตอนไปเที่ยว
มันทำให้ได้ย้อนไปคิดถึงช่วงเวลาเหล่านั้น ทั้งเรื่องราวที่ดี หรือเลวร้ายก็ตามที
แต่สิ่งหนึ่งที่ผมอยากจะบอกให้คนที่ได้อ่านบทความนี้ได้รู้ไว้
 ก็คือ

"เราไม่สามารถเข้าใจอารมณ์หรือรับรู้ถึงประสบการณ์จากรูปถ่ายใดๆได้อย่างลึกซึ้ง
ถ้าเรายังไม่เคยไปที่แห่งนั้นด้วยตัวของเราเองสักครั้งหนึ่ง"

*** นี่คือเรื่องจริง ***
*** เป็นเรื่องที่ผมเพิ่งคิดได้เมื่อไม่นานมานี้ ***
 
เพราะก่อนหน้านี้ คิดเสมอว่า การที่เราได้ดูรูปสวยๆในเนท 
มันก็เหมือนกับการที่เราได้ไปในที่แห่งนั้นแล้ว โดยยืมมือคนอื่น
เมื่อก่อน ผมนี่...เห็นรูปใครถ่ายที่ไหนสวยๆ ก็ Save ไว้ดูที่เครื่องตัวเองเสมอๆ 
แต่สิ่งที่ได้ มันก็คือ การได้ save รูปสวยๆเหล่านั้นไว้ใน computer ของผม เท่านั้นเอง

สิ่งที่ขาดหายไป คือ อารมณ์ร่วม และ ประสบการณ์ ที่เรามันไม่สามารถจะเกิดขึ้นได้เอง

ดังนั้น 
เมื่อเรามีโอกาส หรือ มีความต้องการที่จะไปเปิดโลกความคิดของตัวเราเอง
อย่ารีรอให้ทุกอย่าง Perfect หรือ ดีพร้อม
จงเริ่มทำอะไรสักอย่าง แล้วให้ความปราถนานำพาเราไปถึงจุดที่ต้องการ

*** ประสบการณ์ เป็นสิ่งที่ซื้อหาไม่ได้ ต้องออกไปสร้างมันด้วยตัวเราเองนะ ***

วันพฤหัสบดีที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

ความหลากหลาย : The Diversity


ชื่อเรื่อง  ความหลากหลาย : The Diversity
กลยุทธ์การตลาดแบบหนึ่งที่ทำให้ลูกค้าเกิดความสนใจ แล้วอยากจะเข้าไปดู
จากหลักการของ Marketing หนึ่งในสิ่งที่ต้องทำ ก็คือ 
" การทำให้ลูกค้าเกิดความต้องการ (NEEDs) "

แน่นอนว่า การ Focus ที่จุดแข็งเพียงอย่างเดียว เป็นสิ่งที่ดีมาก
แต่การที่เรามีพระเอกประจำธุรกิจแล้ว เราก็ต้องหาสินค้าตัวรองอื่นๆอีกสักนิดหน่อย
เช่น เพื่อนพระเอก ตัวร้าย ตัวอิจฉา เพื่อเรื่องราวที่จะถึงรสถึงชาติยิ่งขึ้น
การเพิ่มทางเลือกอื่นให้ลูกค้า เป็นสิ่งที่สมควรจะทำเมื่อธรุกิจเราเริ่มขยายตัวเติบโต

ไม่แน่ว่า พระเอก ของเราอาจจะมีวันที่หมดความนิยมลงไป 
และนั่นเอง รองพระเอก จะได้ขึ้นมารับบทพระเอกต่อไป
ยอดขาย และรายได้ของเราจะได้ไม่ต้องขาดช่วงไป
ธุรกิจเราก็จะได้ไม่ต้องหยุดชะงัก เมื่อเจอเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้นมา


๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑

*** 6 Tips to Diversity Marketing ***
แนะนำเคล็ดลับ 6 ข้อในการทำ Diversity Marketing by ดร.การดี
1. เข้าใจภาษาประเทศเพื่อนบ้าน 
เพื่อให้การสื่อสารไม่ผิดพลาดหรือคลาดเคลื่อน อย่างน้อยๆ ภาษาอังกฤษ ต้องพอได้ละ
2. หยุดการคิดไปเอง 
 เนื่องจากคนกลุ่มจากสังคมหนึ่งอาจไม่ได้เป็นอย่างที่เคยเข้าใจเสมอไป
อย่าเชื่อในสิ่งที่เคยรับรู้มาจากสื่อหนึ่งสื่อใดในอดีต
ปัจจุบันมันอาจจะเปลี่ยนแปลงไปแล้ว คุยกับลูกค้าของคุณซะ
3. เคารพในความแตกต่าง 
เช่น กรณีมาสคอต โรนัลด์ แมคโดนัลด์ ของแมคโดนัลด์
ที่มีท่าทางที่แตกต่างกันออกไป เยอะแยะมากมาย ไม่ต้องยึดแพทเทิ่ลเดิมๆ
4. ยอมรับความซับซ้อน
มากคนมากความ ยิ่งต่างบ้านต่างเมืองยิ่งไปกันใหญ่
ยิ่งแตกตต่างเยอะ ความซับซ้อนมันก็จะเพิ่มขึ้นทวีคูณ
5. ทำด้วยความต่อเนื่อง 
ไม่เกี่ยงว่าจะเป็นฤดูกาลใดฤดูกาลหนึ่ง ทำจนกว่าจะหมดแรง
ทำจนลูกค้าคุณเริ่มเห็นและหันมาสนใจในตัวสินค้าของเรานั่นเอง
6. รู้จักคำหลักๆหรือภาพหลักๆที่จะสามารถดึงดูดความสนใจจากกลุ่มอื่นได้
การดึงดูดความสนใจได้ ก็เท่ากับเพิ่มโอกาสการดึงพวกเขามาเป็นลูกค้าเราได้

ทั้งนี้ Diversity Marketing เป็นสิ่งที่ทำแล้วอาจจะไม่สามารถทำรายได้ทันที 
แต่เมื่อทำไปแล้ว ก็จะสามารถหลอมรวมธุรกิจให้ไปในทิศทางที่ต้องการได้
 

วันจันทร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

คิดต่าง หรือ สัปดล [18+]


*** ขออภัยล่วงหน้า หากมันอนาจารจนท่านรับไม่ไหว มันคือ ความจริงของโลกเรา ***

ร้านต้นคิดไอเดียสุดบรรเจิดแห่งนี้ มีชื่อว่า "ต้าเตียวเซา" ตั้งอยู่ในย่านซีเหมินติ่ง ไทเป
มันเป็นไส้กรอกชุบแป้งทอดแบบพิเศษเป็นรูปอวัยวะเพศชาย ซึ่งขายดิบขายดี 
และกลายเป็นร้านของกินสุดฮือฮาของไต้หวันไปแล้ว

เริ่มเปิดขายครั้งแรกเมื่อปลายปี 2553 
เพื่อให้ผู้หญิงได้ระบายอารมณ์แค้นสำหรับสาวๆที่ถูกนอกใจ
ปัจจุบันกระจายอยู่ทั่วเกาะไต้หวันแล้วละ มีหลายสาขาเลยนะ 

 แต่ละชิ้นมีขนาดความยาวประมาณ 18 เซนติเมตร (หรือประมาณ 7 นิ้ว) 
ถูกตั้งราคาขายไว้ที่ 50 ดอลล่าร์ไต้หวันโดยประมาณ

 

วันอาทิตย์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

เอกลักษณ์บ่งบอกถึงตัวตัน แม้ไม่ต้องเห็นหน้าตา


เคยสังเกต คนดังๆในสังคมหลายคน ที่มักจะมีสิ่งเท่ย์ๆ หรืออะไรบางอย่างที่บ่งบอก
ความเป็นตัวตนของเขา หรือ เอกลักษณ์ บางอย่างที่เห็นแล้วทำให้นึกถึงเขา

สิ่งเหล่านี้เป็นหนึ่งในศาสตร์การตลาดที่มีมาแต่ช้านานแล้ว
เอกลักษณ์ หรือ สิ่งที่ทำให้เราคิดถึงเขา เป็นสิ่งที่เรียกว่า Brand ของเขานั่นเอง
ซึ่งเอกลักษณ์ของเขาจะเป็นอะไรก็แล้วแต่ ขึ้นกับแต่ละบุคคลไป

ยกตัวอย่างเช่น
ท่าเต้นหันหลังแล้วโยกซ้ายขวาแบบนี้ แน่นอนคือ พี่ป็อด โมเดิร์นดอก แน่ๆ
รูปแว่นตากับคำคมเรื่องความรัก แน่นอนคือ ลิปตา แน่นอน
สีของธนาคารแต่ละสีบ่งบอกว่าเป็นธนาคารอะไร
(เช่น สีเขียว - กสิกรไทย, สีม่วง - ไทยพานิชย์, สีฟ้า - กรุงไทย เป็นต้น)
ตัวการ์ตูนต่างๆ ที่เขาใช้ก็สื่อแทน Brand ของเขาได้
และตัว Logo หรือ เครื่องหมายการค้า ก็สื่อถือ Brand ของเขาเช่นกัน

ดังนั้น
การที่เราจะประสบความสำเร็จในยุคสมัยนี้ 
ยุคที่มีการ copy กันสูง อีกทั้ง ยังมีคนขายสินค้าแบบเดียวกับเราอยู่หลายเจ้า
แม้แต่พวกนายทุนห้างร้านใหญ่ๆ เช่น Lotus, BigC, 7-eleven ก็เข้ามาแย่งลูกค้ากับเราอีก
สิ่งที่จะทำให้เราสามารถอยู่รอดและเติบใหญ่ต่อไปได้
มีแค่ไม่กี่ทางเท่านั้น 
และหนึ่งในนั้น ก็คือ การมีเอกลักษณ์ ที่ชัดเจน หรือ มี Brand เป็นของตัวเอง
ยิ่งเราชัดเจนมากเท่าไร เราก็จะยิ่งแข็งแกร่ง และคนนึกถึงได้ง่าย
ไม่จำเป็นต้องเด่นไปทุกเรื่อง โฟกัสแค่เรื่องที่เราถนัด ทำให้เจ๋งที่สุด
ลูกค้าที่ต้องการในสิ่งที่เราเสนอให้ เขาจะมาหาเราเอง อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

การสร้าง Brand มันใช้เวลาค่อนข้างนาน และไม่มี how to ให้ลอกเลียนแบบ
ดังนั้น จะต้องค่อยๆสั่งสม และเดินทางไปเป็น Brand ที่ลูกค้ารู้สึกอุ่นใจ
เติบโตไปพร้อมๆกับลูกค้า และจะยั่งยืนต่อไปได้อีกนานแสนนาน

วันเสาร์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

คุณต้องมีความฝัน และความกล้าที่จะทำมันให้เป็นความจริง



ไม่น่าเชื่อ!!! คนหนึ่งคน 
จะสามารถได้ไป...ในสถานที่ที่ไม่เคยคิดว่าจะได้ไปมาก่อน
จะสามารถได้ทำ...ในสิ่งที่ไม่เคยคิดว่าจะได้ทำมันมาก่อน
จะสามารถเป็นที่หนึ่ง...ทั้งๆที่ก็ไม่ได้เปรียบและแข่งขันแพ้เขามาตลอด
จะสามารถได้กิน...ในสิ่งที่ตัวเองก็ไม่เคยเห็นหน้าตามันมาก่อน
จะสามารถได้รู้จัก...กับคนที่ไม่เคยรู้จักกันหรือคนที่แอบปลื้มมาตั้งนานนม
จะสามารถมีมิตรภาพที่แสนดี...ทั้งๆที่คุณก็ไม่ค่อยมีเพื่อนมากมายเหมือนใครๆ
จะมีแฟนหรือคู่ชีวิต...ทั้งๆที่ก็พบกับความผิดหวังในชีวิตมาตลอด
จะมีลูกน้อยกลอยใจ...ทั้งๆที่ก็อาจจะผิดหวังมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า
จะสามารถไปใช้ชีวิต...ในสถานที่หรือประเทศที่สื่อสารภาษาเขาก็ไม่ได้เลย
จะสามารถทำตามความฝัน...ที่มีแต่คนหวังดีพร่ำบอกว่า "ทำไม่ได้หรอก"
จะประสบความสำเร็จ...ทั้งๆที่มีขวากหนามอุปสรรคนานามาบั่นทอนกำลังใจ
จะพบกับความสุขสม...ทั้งๆที่เรายังไม่ไปถึงความสำเร็จด้วยซ้ำ เพียงแค่อยู่ระหว่างเดินทาง

สิ่งเดียวที่คุณต้องมี 
 นั่นก็คือ
"คุณต้องมีความฝัน และความกล้าที่จะทำมันให้เป็นความจริง"

วันพฤหัสบดีที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

The Difference : ทำในสิ่งที่คนอื่นไม่ทำ เป็นในสิ่งที่คนอื่นไม่เป็น


The Difference
ทำในสิ่งที่คนอื่นไม่ทำ เป็นในสิ่งที่คนอื่นไม่เป็น

เพดานที่ตกแต่งด้วยรูปภาพจำนวนมากที่เรืองแสงได้ 
ประดับตกแต่งตามทางเดินของร้าน ทั้งปกปิดสิ่งที่ไม่น่าดู และเพิ่มความตื่นตาให้กับร้าน
ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวจริงๆเลยนะครับ

นี่เป็นตัวอย่างของการทำสิ่งที่คนอื่นไม่ค่อยทำ ทำให้ตัวเองแตกต่างและโดดเด่น
เขาจึงเป็นในสิ่งที่คนอื่นไม่สามารถจะเป็นได้เช่นกัน

ที่นี่ คือ ร้าน Never Ending Story ของ Jimmy Liao 
เขาคือ บุคคลที่คนไต้หวันรู้จักแทบจะส่วนใหญ่ เพราะเขามีผลงานดังๆเยอะมาก

นอกจากร้านคาเฟ่ที่ตกแต่งได้โดดเด่นสะดุดตาแล้ว
เขายังมีผลงาน The Moon Bus ที่จัดแสดงใกล้ๆกับตึก Taipei101
และ ภาพวาดฝาผนังที่ MRT สถานี Nangang ที่ใครมาไทเปก็ต้องไปถ่ายรูป
และยังมีหนังสือการ์ตูน เพลง และวีดีโอมากมายหลายเรื่องด้วยกัน

นั่นเพราะเรากล้าทำสิ่งที่แตกต่าง เลยได้เป็นสิ่งที่คนอื่นไม่ได้เป็นนั่นเอง
 

วันพุธที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

อย่าดูถูกในจินตนาการ เพราะมันยิ่งใหญ่ที่สุดแล้วละ


" การ์ตูนเด็ก ถ้ามันมีเอกลักษณ์และตัวตนที่ชัดเจน มันก็ทำให้รวยได้ "

การจินตนาการ หลายๆคนในยุคสมัยนี้ จะบอกว่าเป็นเรื่องเพ้อเจ้อ
การคิดอะไรที่คนอื่นไม่คิดกัน ดูเหมือนจะเป็นความคิดที่ผิดไปหมด
คนไทยเกือบ 90% คิดแบบนี้ เหมือนโดนตีกรอบความคิดมาเรียบร้อยแล้ว

ไม่แปลกหรอก เพราะสังคมไทยเรา มักจะดูหมิ่นและหัวเราะเยาะพวกที่ทำตัวต่างจากคนส่วนใหญ่
มันถูกปลูกฝังมาตั้งแต่ในการศึกษาตั้งแต่ตอนเป็นเด็กแล้วละ
ใครที่คิดต่างทำต่าง จะไม่เป็นที่ยอมรับในสังคมเท่าไร
บ้างก็ถูกตำหนิจากครูบาอาจารย์ หรือไม่ก็ได้คะแนนเป็นศูนย์ ไปในสิ่งนั้น 
ส่วนในกลุ่มเพื่อนฝูงนักเรียนเอง ก็จะยึดความคิดเห็นของกลุ่มเป็นหลัก
ใครคิดไม่เหมือนกลุ่มตน ก็ถือว่าเป็นคนนอกกลุ่ม ไม่มีการยอมรับ

สิ่งเหล่านี้ทำให้ คนไทย ไม่ค่อยมีความคิดที่แตกต่าง ไม่มีจินตนาการ เหมือนเมืองนอก

ไอสไตน์บอกว่า " จินตนาการ สำคัญกว่า ความรู้ "

เพราะทุกสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นบนโลกนี้มาก่อน ต่างต้องการจินตนาการมาเป็นตัวเริ่ม
เพราะ ความรู้ ส่วนใหญ่จะเป็นสิ่งที่ได้จากสิ่งที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว แล้วถ่ายทอดต่อๆกันมา

ขอให้อย่าดูแคลนจินตนาการ และ จงใช้ชีวิตให้ออกนอกกรอบแห่งสังคมบ้าง
เพื่อจะได้ใช้ชีวิตของเราเองได้ครบรสชาติมากขึ้น และไม่ต้องมาเสียดายเมื่อมันจะหมดไป

วันอังคารที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

ชีวิตบ้านนอก ไม่รวยเงินทอง แต่รวยน้ำใจ


รูปนี้เหมาะกับเพลงนี้มากๆครับ

            ถึงยากจนไม่มองคนเหยียดๆ
            ไม่รังแกรังเกียจ   คิดเบียดเบียนใจใคร
            มีจนวัดใจคนไม่ได้
            จนแต่รวยนํ้าใจผู้ยิ่งใหญ่แห่งความจน

 ทรัพย์สินไม่สะสม 
อยู่ในสังคมด้วยความสุขขี
ปริญญาฉันไม่เคยมี
ความรู้พอดีพออ่านออกเขียนได้

            ไปทํางานรับจ้างก็ทําจริง
            ฉันทําทุกสิ่งยกเว้นประจบเจ้านาย
            วัดคนเขาวัดกันที่นํ้าลาย
            ลาก่อนเจ้านายฉันไม่ใช่ควายจนตรอก

     ไม่เคยใฝ่ฝันเป็นโตเป็นใหญ่
     ไม่มีปัจจัยทั้งสี่ประการ
     แค่สัตว์เลื้อยคลานสองข้างถนน
     เนื้อตัวยากจนแต่นํ้าใจยิ่งใหญ่

  คนจน   (จนแต่รวยนํ้าใจ)
  ใครจะว่ายากจน   (คนจนผู้ยิ่งใหญ่)
  (คนจน)   จนแต่รวยนํ้าใจ
  (ใครจะว่ายากจน)   คนจนผู้ยิ่งใหญ่

            มีชีวิตย่อมมีความลําบาก
            อดๆ   อยากๆ   ดังยาชูกําลัง
            คามหวังแม้ว่ายังริบหรี่
            เพราะสังคมวันนี้มันหางานการยาก

ยํ่าไปสมัครไปไม่เลือกหน้า
ค่าจ้างราคาไม่สํามะคัญ
ลุยควันลุยท่อไอเสีย
มีแต่ความอ่อนเพลีย ยังดีกว่าเสียขากัน
 
            ปัจจัยคือเครื่องบาดใจ
            ศาสดาสอนไว้ในพระไตรปิฏก
            ความจริงที่คู่ควรหยิบยก
            ชําระความสกปรกในสังคมเมืองไทย

จิตใจแห่งความเป็นพุทธ
ใสบริสุทธิ์นั้นคือจุดหมาย
รวยล้นกระทําตนเหลวไหล
ไม่ใช่ผู้ยิ่งใหญ่เป็นแต่ผู้ยิ่งเลว