วันอาทิตย์ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2558

แม้นในค่ำคืนที่มืดมิด ยังมีแสงจากหลอดไฟช่วยให้ความสว่าง


ไม่มีคำว่า "เป็นไปไม่ได้" มีแต่คำว่า ไม่รู้จะทำให้มันได้อย่างไรมากกว่า

เล่าย้อนไปถึงเมื่อครั้งยุคหิน
มนุษย์ยังอยู่ในถ้ำ และใช้มันเป็น "บ้านที่อยู่อาศัย"
มนุษย์เอาหนังของสัตว์มาห่มแก้หนาว และใช้มันเป็น "เครื่องนุ่งห่ม"
มนุษย์เอาพืชที่มีพิษมากินต้านพิษ และใช้มันเป็น "ยารักษาโรค"
มนุษย์กินพืชและสัตว์แบบดิบๆ ไม่มีการปรุงแต่ง เพื่อให้มันเป็น "อาหาร"
มนุษย์ยังล่าสัตว์ด้วยก้อนหินและไม้ ซึ่งคือสิ่งที่ใช้เป็น "เครื่องมือ"

ทุกสิ่งทุกอย่าง มีการวิวัฒนาการขึ้นมาเรื่อยๆ
เริ่มมีการใช้ "เครื่องจักร" และ "เทคโนโลยี" เพิ่มมากขึ้นหลังจากนั้น
จนทุกวันนี้ มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย จนทำให้คนเราสบายมากขึ้นเรื่อยๆ

มี "รถยนต์"
เพื่อที่ไม่ต้องใช้แรงของสิ่งมีชีวิตลากจูง และเคลื่อนที่ได้เร็วและไกลกว่า
มี "เรือยนต์"
เพื่อที่ทำให้คนเราไม่ต้องว่ายน้ำหรือพายมือ เพื่อไปยังเกาะแก่งต่างๆ
มี "รถไฟ"
เพื่อให้สามารถเดินทางไปที่หนึ่งได้ ได้จำนวนมากๆ และช่วยในการลำเลียงสินค้า
มี "เครื่องบิน"
เพื่อที่ทำให้คนเดินทางจากซีกโลกหนึ่งไปยังอีกซีกโลกหนึ่งได้ในเวลาไม่กี่วัน

มีการผลิต "เครื่องใช้ไฟฟ้า" และ "หลอดไฟฟ้าส่องสว่าง"
ทำให้เราสามารถเห็นได้ในที่ที่ไม่มีแสงสว่าง ไม่ต้องรอให้ตะวันขึ้นก็มองเห็นอะไรๆได้
และมีเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ช่วยให้เกิดความง่ายในการดำรงค์ชีวิตประจำวัน

มี พัดลม และ แอร์คอนดิชั่น 
เพื่อ ช่วยให้เราเย็นเมือ่อากาศมันร้อน
มี เครื่องทำน้ำร้อน
เพื่อช่วยให้เราได้ใช้น้ำที่อุณหภูมิที่ร่างกายรับได้
มี ทีวี และ เครื่องเสียง
เพื่อช่วยให้เราได้รับชมความบันเทิงต่างๆ
มี โทรศัทพ์ และ คอมพิวเตอร์
เพื่อให้เราได้ติดต่อสื่อสาร และทำงานต่างๆอย่างง่ายดาย

สิ่งเหล่านี้ จะไม่เกิดขึ้นได้เลย ถ้าคนเราไม่มีความคิดที่ว่า 
มันเป็นไปได้
มันดีกว่านี้ได้ 
มันยังทำอะไรได้มากกว่านี้

จงอย่าอายที่คิดอะไรไม่เหมือนคนอื่น 
จงอย่าสนใจว่าใครจะหัวเราะเยาะเกี่ยวกับความคิดที่ยังไม่เคยมีใครทำได้
จงหาหนทางสร้างสรรค์สิ่งที่ยังไม่มีให้เกิดขึ้น
จงเป็นคนที่ทำให้ ความเป็นไปได้ เกิดขึ้นซะเอง
และจงมีความสุขกับชีวิตอันน้อยนิดนี้เทอญ

วันพฤหัสบดีที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ไร่เชิญตะวัน เชียงราย ตอน ปิดหู ปิดตา ปิดปาก แต่ เปิดใจ


การที่จะอยู่บนโลกใบนี้อย่างมีความสุขได้ 
คือ 
**** การรู้เท่าทันแล้วก็ปล่อยวางมันเสีย ****

หลายต่อหลายสิ่ง เป็นดั่งใจ เราก็มีความสุข
หลายต่อหลายสิ่ง ไม่เป็นดั่งใจ เราก็เกิดความทุกข์
แต่ทั้ง ความสุข และ ความทุกข์ เป็นสิ่งที่ไม่จีรัง เป็นอนัตตา เกิดขึ้นแล้วก็ดับไป
มีแต่ตัวเราเท่านั้น ที่ไม่ยอมให้สิ่งเหล่านี้ มันดับไป แต่กลับยื้อและรั้งมันเอาไว้
สิ่งที่เกิดและจบไปแล้วในอดีต จึงยังคงแสดงอนุภาพในปัจจุบันได้อย่างน่าอัศจรรย์

ดังนั้น
เมื่อเรารู้ว่า ทุกสิ่งมันเป็นอนัตตา ไม่จีรัง เกิดขึ้นแล้วก็ต้องดับไปแล้วไซร้
เราก็ควรปล่อยวางสิ่งเหล่านั้นเสีย จึงจักดำรงอยู่กับปัจจุบันได้อย่างปกติ

หลักการง่ายๆ ที่เหมือนจะเคยได้ยินกันมาบ่อยๆ เห็นกันมาจนติดตา และได้พูดต่อๆกันมา
นั่นคือ
จง ปิดหู ปิดตา ปิดปาก ในบางเรื่องไปซะบ้าง
แต่จง เปิดใจ ให้กว้าง เพื่อให้การดำรงชีวิตเป็นไปได้โดยปกติสุขมากที่สุด

ปริศนาธรรม ที่หนุ่มคิดบวก ได้ตระหนักรู้ เมื่อไปยืนมองดู รูปปั้นทั้งสี่รูปนี้
และอยากแบ่งปันให้ เพื่อนๆที่รักทุกท่าน ได้ประโยชน์ไม่มากก็น้อย

โยโย หนุ่มคิดบวก



วันศุกร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

Farm Festival 4 : เทศกาลดนตรีแห่งขุนเขา ณ ฤดูหนาว


เหลือเวลาอีกแค่ วันนี้และวันพรุ่งนี้ เท่านั้น
กับเทศกาลดนตรีแห่งขุนเขา Farm Festival No.4
เมื่อวานนี้ ได้ข่าวว่ายอดคนไปเที่ยวที่งาน นับได้มากกว่า 50,000 คน 
ถือเป็นสถิติใหม่ของเทศกาลฟาร์มเฟสติวัลเลยก็ว่าได้

เมื่อวานนี้ ผมเองก็ได้มีโอกาสไปเยี่ยมชมงานมา จึงอยากจะมาเล่าบรรยากาศซะหน่อย
ผมถือว่าเป็น แฟนพันธ์แท้ ของ ฟาร์มเฟสติวัล ที่ ไร่บุญรอด เชียงราย เลยก็ว่าได้
ไปทุกปี ตั้งแต่ครั้งแรก ครั้งที่สอง ครั้งที่สาม และครั้งที่สี่นี้
ผมเห็นความเปลี่ยนแปลงของที่นี่ ในทุกๆปีที่ได้ไปสัมผัสบรรยากาศมา

ขอแบ่งเป็น 9 สิ่งที่ต้องห้ามพลาด กับ 9 สิ่งแนะนำในการไปเที่ยวฟาร์มเฟสติวัล ละกันนะ 

9 สิ่งที่ต้องห้ามพลาดในการไปฟาร์มเฟสฯ
1.
ชื่นชมวิวธรรมชาติและความงามของไร่บุญรอดก่อนตะวันตกดิน

2.
ไร่ชา ที่นี่ก็มีนะครับ

3.
ปั่นจักรยาน ท่องเที่ยว ณ ไร่บุญรอด

4.
ถ่ายรูปกับ รูปปั้นสิงห์ยักษ์ ที่หน้าไร่ฯ ตรงทางเข้าเลยครับ

5.
จะมีการจัดกิจกรรม advanture ต่างๆ มากมาย ทุกปี
วิ่งวิบากบุกน้ำลุยโคลน (เห็นมาสองปีละ)
ปั่นจักรยานชมไร่ (เห็นมาสองปีละ)
โดดหอสูง (เพิ่งมีปีนี้ หอสูงใช่เล่น)

6.
ขึ้นบอลลูนชมวิวมุมสูงของไร่บุญรอด

7.
เล่นเกมตามบู๊ทต่างๆ ถ่ายรูปกับสาวๆน่ารักประจำบู๊ท และรับของรางวัล (ถ้าได้)

8.
พาเพื่อนๆ ครอบครัว คนรัก ไปสร้างความทรงจำดีๆร่วมกัน หนึ่งปีมีหนึ่งหนเท่านั้นนะ

9.
พระเอกของงาน คือ จิบเบียร์ ฟังดนตรีสดจากศิลปินมีชื่อที่เราชื่นชอบ ไม่ซ้ำหน้ากัน
โดยไม่มีค่าเข้าชมงาน .... It's FREE!!!
และทานอาหารที่จำหน่ายตามซุ้มต่างๆ

---------------------------------------------------------------------

9 สิ่งแนะนำในการไปเที่ยวฟาร์มเฟสติวัล
1.
ถึงจะจัดหน้าหนาว แต่จริงๆแล้วในงานไม่หนาวนะ 
ถ้าจะเอาชุดกันหนาวไป ไม่ต้องใส่ชุดกันหนาวหนาเกินไปละ 

2.
กินข้าวจากข้างนอกก่อนไปในงาน จะประหยัดได้มาก
อาหารในงาน จะแพงกว่าข้างนอกนิดหน่อย ถือว่า ช่วยๆพ่อค้าแม่ขาย
สำหรับ คนที่ชอบกินกับเยอะๆเวลากินเหล้า กินไปก่อนจะช่วยลดรายจ่ายได้เยอะ

3.
เวลาแนะนำในการเดินทางไปไร่บุญรอดด้วยรถยนต์
ควรเป็นช่วง ก่อน 4-5 โมง เพราะรถไม่ติด ที่จอดรถเยอะ และได้ถ่ายรูปก่อนมืด
ถ้าไปสาย ก็หลีกเลี่ยงช่วง 5-7 โมง เพราะคนจะแห่แหนกันมาเยอะเลย
แต่ถ้าจำเป็นต้องมาเวลาดังกล่าว แนะนำให้ไปทางเส้นเชียงราย-พะเยา แล้วเข้าไปทางวัดร่องขุ่น
หรือ จะไปโดยมอเตอร์ไซด์ ก็น่าจะเป็นอีกวิธีที่น่าสนใจนะ ผมว่า

4.
เตรียมเงินมาให้พอ เพราะ ถ้าเกิดเงินหมด อาจจะสะดุด ขาดช่วงได้

5.
เมาไม่ขับ ว่างแผนดีๆ

6.
ถ้าอยากใกล้ชิดนักร้อง ให้ไปจับจองหาที่นั่งหน้าเวที ไม่ต้องไปนั่งโต๊ะหรอก
เพราะเมื่อนักร้องที่ท่านชื่นชอบมา คนแน่นมาก เบียดเสียดเข้าไปได้ยาก

7.
ถ้าไม่ชอบเบียดเสียดคนเยอะ มีที่นั่งทานเยอะอยู่ แต่ต้องไปไวหน่อย คนมาจองโต๊ะเยอะ
มีจอมอนิเตอร์ ที่ถ่ายบรรยากาศบนเวที ไว้ให้รับชมได้ทั่วงานนะ

8.
แนะนำให้ไปเดินชมบรรยากาศการจำหน่ายอาหารตามซุ้มต่างๆ เป็นบรรยากาศที่ดีนะ

9.
เวลานัดหมายกับเพื่อน ให้นัดเจอในงานเลยก็ได้ หากันไม่ยาก มันไม่ได้กว้างอย่างที่คิดหรอก

วันอาทิตย์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

ออกไปใช้ชีวิต ออกไปสัมผัสมันด้วยตัวเราเอง


ภาพที่ไม่ต้องอธิบายอะไรมาก

การถ่ายรูปของผม หลังๆมานี้ จะเป็นรูปที่จะสื่อถืออะไรบางอย่างเสมอๆ
โดยจะพยายามลดคำอธิบายรูปให้น้อยลง หรือ ไม่มีเลยจะเยี่ยมมาก

หลายๆครั้ง ที่ผมได้เปิดดูรูปเก่าๆที่ถ่ายไว้ตอนไปเที่ยว
มันทำให้ได้ย้อนไปคิดถึงช่วงเวลาเหล่านั้น ทั้งเรื่องราวที่ดี หรือเลวร้ายก็ตามที
แต่สิ่งหนึ่งที่ผมอยากจะบอกให้คนที่ได้อ่านบทความนี้ได้รู้ไว้
 ก็คือ

"เราไม่สามารถเข้าใจอารมณ์หรือรับรู้ถึงประสบการณ์จากรูปถ่ายใดๆได้อย่างลึกซึ้ง
ถ้าเรายังไม่เคยไปที่แห่งนั้นด้วยตัวของเราเองสักครั้งหนึ่ง"

*** นี่คือเรื่องจริง ***
*** เป็นเรื่องที่ผมเพิ่งคิดได้เมื่อไม่นานมานี้ ***
 
เพราะก่อนหน้านี้ คิดเสมอว่า การที่เราได้ดูรูปสวยๆในเนท 
มันก็เหมือนกับการที่เราได้ไปในที่แห่งนั้นแล้ว โดยยืมมือคนอื่น
เมื่อก่อน ผมนี่...เห็นรูปใครถ่ายที่ไหนสวยๆ ก็ Save ไว้ดูที่เครื่องตัวเองเสมอๆ 
แต่สิ่งที่ได้ มันก็คือ การได้ save รูปสวยๆเหล่านั้นไว้ใน computer ของผม เท่านั้นเอง

สิ่งที่ขาดหายไป คือ อารมณ์ร่วม และ ประสบการณ์ ที่เรามันไม่สามารถจะเกิดขึ้นได้เอง

ดังนั้น 
เมื่อเรามีโอกาส หรือ มีความต้องการที่จะไปเปิดโลกความคิดของตัวเราเอง
อย่ารีรอให้ทุกอย่าง Perfect หรือ ดีพร้อม
จงเริ่มทำอะไรสักอย่าง แล้วให้ความปราถนานำพาเราไปถึงจุดที่ต้องการ

*** ประสบการณ์ เป็นสิ่งที่ซื้อหาไม่ได้ ต้องออกไปสร้างมันด้วยตัวเราเองนะ ***

วันพฤหัสบดีที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

ความหลากหลาย : The Diversity


ชื่อเรื่อง  ความหลากหลาย : The Diversity
กลยุทธ์การตลาดแบบหนึ่งที่ทำให้ลูกค้าเกิดความสนใจ แล้วอยากจะเข้าไปดู
จากหลักการของ Marketing หนึ่งในสิ่งที่ต้องทำ ก็คือ 
" การทำให้ลูกค้าเกิดความต้องการ (NEEDs) "

แน่นอนว่า การ Focus ที่จุดแข็งเพียงอย่างเดียว เป็นสิ่งที่ดีมาก
แต่การที่เรามีพระเอกประจำธุรกิจแล้ว เราก็ต้องหาสินค้าตัวรองอื่นๆอีกสักนิดหน่อย
เช่น เพื่อนพระเอก ตัวร้าย ตัวอิจฉา เพื่อเรื่องราวที่จะถึงรสถึงชาติยิ่งขึ้น
การเพิ่มทางเลือกอื่นให้ลูกค้า เป็นสิ่งที่สมควรจะทำเมื่อธรุกิจเราเริ่มขยายตัวเติบโต

ไม่แน่ว่า พระเอก ของเราอาจจะมีวันที่หมดความนิยมลงไป 
และนั่นเอง รองพระเอก จะได้ขึ้นมารับบทพระเอกต่อไป
ยอดขาย และรายได้ของเราจะได้ไม่ต้องขาดช่วงไป
ธุรกิจเราก็จะได้ไม่ต้องหยุดชะงัก เมื่อเจอเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้นมา


๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑

*** 6 Tips to Diversity Marketing ***
แนะนำเคล็ดลับ 6 ข้อในการทำ Diversity Marketing by ดร.การดี
1. เข้าใจภาษาประเทศเพื่อนบ้าน 
เพื่อให้การสื่อสารไม่ผิดพลาดหรือคลาดเคลื่อน อย่างน้อยๆ ภาษาอังกฤษ ต้องพอได้ละ
2. หยุดการคิดไปเอง 
 เนื่องจากคนกลุ่มจากสังคมหนึ่งอาจไม่ได้เป็นอย่างที่เคยเข้าใจเสมอไป
อย่าเชื่อในสิ่งที่เคยรับรู้มาจากสื่อหนึ่งสื่อใดในอดีต
ปัจจุบันมันอาจจะเปลี่ยนแปลงไปแล้ว คุยกับลูกค้าของคุณซะ
3. เคารพในความแตกต่าง 
เช่น กรณีมาสคอต โรนัลด์ แมคโดนัลด์ ของแมคโดนัลด์
ที่มีท่าทางที่แตกต่างกันออกไป เยอะแยะมากมาย ไม่ต้องยึดแพทเทิ่ลเดิมๆ
4. ยอมรับความซับซ้อน
มากคนมากความ ยิ่งต่างบ้านต่างเมืองยิ่งไปกันใหญ่
ยิ่งแตกตต่างเยอะ ความซับซ้อนมันก็จะเพิ่มขึ้นทวีคูณ
5. ทำด้วยความต่อเนื่อง 
ไม่เกี่ยงว่าจะเป็นฤดูกาลใดฤดูกาลหนึ่ง ทำจนกว่าจะหมดแรง
ทำจนลูกค้าคุณเริ่มเห็นและหันมาสนใจในตัวสินค้าของเรานั่นเอง
6. รู้จักคำหลักๆหรือภาพหลักๆที่จะสามารถดึงดูดความสนใจจากกลุ่มอื่นได้
การดึงดูดความสนใจได้ ก็เท่ากับเพิ่มโอกาสการดึงพวกเขามาเป็นลูกค้าเราได้

ทั้งนี้ Diversity Marketing เป็นสิ่งที่ทำแล้วอาจจะไม่สามารถทำรายได้ทันที 
แต่เมื่อทำไปแล้ว ก็จะสามารถหลอมรวมธุรกิจให้ไปในทิศทางที่ต้องการได้
 

วันจันทร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

คิดต่าง หรือ สัปดล [18+]


*** ขออภัยล่วงหน้า หากมันอนาจารจนท่านรับไม่ไหว มันคือ ความจริงของโลกเรา ***

ร้านต้นคิดไอเดียสุดบรรเจิดแห่งนี้ มีชื่อว่า "ต้าเตียวเซา" ตั้งอยู่ในย่านซีเหมินติ่ง ไทเป
มันเป็นไส้กรอกชุบแป้งทอดแบบพิเศษเป็นรูปอวัยวะเพศชาย ซึ่งขายดิบขายดี 
และกลายเป็นร้านของกินสุดฮือฮาของไต้หวันไปแล้ว

เริ่มเปิดขายครั้งแรกเมื่อปลายปี 2553 
เพื่อให้ผู้หญิงได้ระบายอารมณ์แค้นสำหรับสาวๆที่ถูกนอกใจ
ปัจจุบันกระจายอยู่ทั่วเกาะไต้หวันแล้วละ มีหลายสาขาเลยนะ 

 แต่ละชิ้นมีขนาดความยาวประมาณ 18 เซนติเมตร (หรือประมาณ 7 นิ้ว) 
ถูกตั้งราคาขายไว้ที่ 50 ดอลล่าร์ไต้หวันโดยประมาณ

 

วันอาทิตย์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

เอกลักษณ์บ่งบอกถึงตัวตัน แม้ไม่ต้องเห็นหน้าตา


เคยสังเกต คนดังๆในสังคมหลายคน ที่มักจะมีสิ่งเท่ย์ๆ หรืออะไรบางอย่างที่บ่งบอก
ความเป็นตัวตนของเขา หรือ เอกลักษณ์ บางอย่างที่เห็นแล้วทำให้นึกถึงเขา

สิ่งเหล่านี้เป็นหนึ่งในศาสตร์การตลาดที่มีมาแต่ช้านานแล้ว
เอกลักษณ์ หรือ สิ่งที่ทำให้เราคิดถึงเขา เป็นสิ่งที่เรียกว่า Brand ของเขานั่นเอง
ซึ่งเอกลักษณ์ของเขาจะเป็นอะไรก็แล้วแต่ ขึ้นกับแต่ละบุคคลไป

ยกตัวอย่างเช่น
ท่าเต้นหันหลังแล้วโยกซ้ายขวาแบบนี้ แน่นอนคือ พี่ป็อด โมเดิร์นดอก แน่ๆ
รูปแว่นตากับคำคมเรื่องความรัก แน่นอนคือ ลิปตา แน่นอน
สีของธนาคารแต่ละสีบ่งบอกว่าเป็นธนาคารอะไร
(เช่น สีเขียว - กสิกรไทย, สีม่วง - ไทยพานิชย์, สีฟ้า - กรุงไทย เป็นต้น)
ตัวการ์ตูนต่างๆ ที่เขาใช้ก็สื่อแทน Brand ของเขาได้
และตัว Logo หรือ เครื่องหมายการค้า ก็สื่อถือ Brand ของเขาเช่นกัน

ดังนั้น
การที่เราจะประสบความสำเร็จในยุคสมัยนี้ 
ยุคที่มีการ copy กันสูง อีกทั้ง ยังมีคนขายสินค้าแบบเดียวกับเราอยู่หลายเจ้า
แม้แต่พวกนายทุนห้างร้านใหญ่ๆ เช่น Lotus, BigC, 7-eleven ก็เข้ามาแย่งลูกค้ากับเราอีก
สิ่งที่จะทำให้เราสามารถอยู่รอดและเติบใหญ่ต่อไปได้
มีแค่ไม่กี่ทางเท่านั้น 
และหนึ่งในนั้น ก็คือ การมีเอกลักษณ์ ที่ชัดเจน หรือ มี Brand เป็นของตัวเอง
ยิ่งเราชัดเจนมากเท่าไร เราก็จะยิ่งแข็งแกร่ง และคนนึกถึงได้ง่าย
ไม่จำเป็นต้องเด่นไปทุกเรื่อง โฟกัสแค่เรื่องที่เราถนัด ทำให้เจ๋งที่สุด
ลูกค้าที่ต้องการในสิ่งที่เราเสนอให้ เขาจะมาหาเราเอง อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

การสร้าง Brand มันใช้เวลาค่อนข้างนาน และไม่มี how to ให้ลอกเลียนแบบ
ดังนั้น จะต้องค่อยๆสั่งสม และเดินทางไปเป็น Brand ที่ลูกค้ารู้สึกอุ่นใจ
เติบโตไปพร้อมๆกับลูกค้า และจะยั่งยืนต่อไปได้อีกนานแสนนาน

วันเสาร์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

คุณต้องมีความฝัน และความกล้าที่จะทำมันให้เป็นความจริง



ไม่น่าเชื่อ!!! คนหนึ่งคน 
จะสามารถได้ไป...ในสถานที่ที่ไม่เคยคิดว่าจะได้ไปมาก่อน
จะสามารถได้ทำ...ในสิ่งที่ไม่เคยคิดว่าจะได้ทำมันมาก่อน
จะสามารถเป็นที่หนึ่ง...ทั้งๆที่ก็ไม่ได้เปรียบและแข่งขันแพ้เขามาตลอด
จะสามารถได้กิน...ในสิ่งที่ตัวเองก็ไม่เคยเห็นหน้าตามันมาก่อน
จะสามารถได้รู้จัก...กับคนที่ไม่เคยรู้จักกันหรือคนที่แอบปลื้มมาตั้งนานนม
จะสามารถมีมิตรภาพที่แสนดี...ทั้งๆที่คุณก็ไม่ค่อยมีเพื่อนมากมายเหมือนใครๆ
จะมีแฟนหรือคู่ชีวิต...ทั้งๆที่ก็พบกับความผิดหวังในชีวิตมาตลอด
จะมีลูกน้อยกลอยใจ...ทั้งๆที่ก็อาจจะผิดหวังมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า
จะสามารถไปใช้ชีวิต...ในสถานที่หรือประเทศที่สื่อสารภาษาเขาก็ไม่ได้เลย
จะสามารถทำตามความฝัน...ที่มีแต่คนหวังดีพร่ำบอกว่า "ทำไม่ได้หรอก"
จะประสบความสำเร็จ...ทั้งๆที่มีขวากหนามอุปสรรคนานามาบั่นทอนกำลังใจ
จะพบกับความสุขสม...ทั้งๆที่เรายังไม่ไปถึงความสำเร็จด้วยซ้ำ เพียงแค่อยู่ระหว่างเดินทาง

สิ่งเดียวที่คุณต้องมี 
 นั่นก็คือ
"คุณต้องมีความฝัน และความกล้าที่จะทำมันให้เป็นความจริง"

วันพฤหัสบดีที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

The Difference : ทำในสิ่งที่คนอื่นไม่ทำ เป็นในสิ่งที่คนอื่นไม่เป็น


The Difference
ทำในสิ่งที่คนอื่นไม่ทำ เป็นในสิ่งที่คนอื่นไม่เป็น

เพดานที่ตกแต่งด้วยรูปภาพจำนวนมากที่เรืองแสงได้ 
ประดับตกแต่งตามทางเดินของร้าน ทั้งปกปิดสิ่งที่ไม่น่าดู และเพิ่มความตื่นตาให้กับร้าน
ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวจริงๆเลยนะครับ

นี่เป็นตัวอย่างของการทำสิ่งที่คนอื่นไม่ค่อยทำ ทำให้ตัวเองแตกต่างและโดดเด่น
เขาจึงเป็นในสิ่งที่คนอื่นไม่สามารถจะเป็นได้เช่นกัน

ที่นี่ คือ ร้าน Never Ending Story ของ Jimmy Liao 
เขาคือ บุคคลที่คนไต้หวันรู้จักแทบจะส่วนใหญ่ เพราะเขามีผลงานดังๆเยอะมาก

นอกจากร้านคาเฟ่ที่ตกแต่งได้โดดเด่นสะดุดตาแล้ว
เขายังมีผลงาน The Moon Bus ที่จัดแสดงใกล้ๆกับตึก Taipei101
และ ภาพวาดฝาผนังที่ MRT สถานี Nangang ที่ใครมาไทเปก็ต้องไปถ่ายรูป
และยังมีหนังสือการ์ตูน เพลง และวีดีโอมากมายหลายเรื่องด้วยกัน

นั่นเพราะเรากล้าทำสิ่งที่แตกต่าง เลยได้เป็นสิ่งที่คนอื่นไม่ได้เป็นนั่นเอง
 

วันพุธที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

อย่าดูถูกในจินตนาการ เพราะมันยิ่งใหญ่ที่สุดแล้วละ


" การ์ตูนเด็ก ถ้ามันมีเอกลักษณ์และตัวตนที่ชัดเจน มันก็ทำให้รวยได้ "

การจินตนาการ หลายๆคนในยุคสมัยนี้ จะบอกว่าเป็นเรื่องเพ้อเจ้อ
การคิดอะไรที่คนอื่นไม่คิดกัน ดูเหมือนจะเป็นความคิดที่ผิดไปหมด
คนไทยเกือบ 90% คิดแบบนี้ เหมือนโดนตีกรอบความคิดมาเรียบร้อยแล้ว

ไม่แปลกหรอก เพราะสังคมไทยเรา มักจะดูหมิ่นและหัวเราะเยาะพวกที่ทำตัวต่างจากคนส่วนใหญ่
มันถูกปลูกฝังมาตั้งแต่ในการศึกษาตั้งแต่ตอนเป็นเด็กแล้วละ
ใครที่คิดต่างทำต่าง จะไม่เป็นที่ยอมรับในสังคมเท่าไร
บ้างก็ถูกตำหนิจากครูบาอาจารย์ หรือไม่ก็ได้คะแนนเป็นศูนย์ ไปในสิ่งนั้น 
ส่วนในกลุ่มเพื่อนฝูงนักเรียนเอง ก็จะยึดความคิดเห็นของกลุ่มเป็นหลัก
ใครคิดไม่เหมือนกลุ่มตน ก็ถือว่าเป็นคนนอกกลุ่ม ไม่มีการยอมรับ

สิ่งเหล่านี้ทำให้ คนไทย ไม่ค่อยมีความคิดที่แตกต่าง ไม่มีจินตนาการ เหมือนเมืองนอก

ไอสไตน์บอกว่า " จินตนาการ สำคัญกว่า ความรู้ "

เพราะทุกสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นบนโลกนี้มาก่อน ต่างต้องการจินตนาการมาเป็นตัวเริ่ม
เพราะ ความรู้ ส่วนใหญ่จะเป็นสิ่งที่ได้จากสิ่งที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว แล้วถ่ายทอดต่อๆกันมา

ขอให้อย่าดูแคลนจินตนาการ และ จงใช้ชีวิตให้ออกนอกกรอบแห่งสังคมบ้าง
เพื่อจะได้ใช้ชีวิตของเราเองได้ครบรสชาติมากขึ้น และไม่ต้องมาเสียดายเมื่อมันจะหมดไป

วันอังคารที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

ชีวิตบ้านนอก ไม่รวยเงินทอง แต่รวยน้ำใจ


รูปนี้เหมาะกับเพลงนี้มากๆครับ

            ถึงยากจนไม่มองคนเหยียดๆ
            ไม่รังแกรังเกียจ   คิดเบียดเบียนใจใคร
            มีจนวัดใจคนไม่ได้
            จนแต่รวยนํ้าใจผู้ยิ่งใหญ่แห่งความจน

 ทรัพย์สินไม่สะสม 
อยู่ในสังคมด้วยความสุขขี
ปริญญาฉันไม่เคยมี
ความรู้พอดีพออ่านออกเขียนได้

            ไปทํางานรับจ้างก็ทําจริง
            ฉันทําทุกสิ่งยกเว้นประจบเจ้านาย
            วัดคนเขาวัดกันที่นํ้าลาย
            ลาก่อนเจ้านายฉันไม่ใช่ควายจนตรอก

     ไม่เคยใฝ่ฝันเป็นโตเป็นใหญ่
     ไม่มีปัจจัยทั้งสี่ประการ
     แค่สัตว์เลื้อยคลานสองข้างถนน
     เนื้อตัวยากจนแต่นํ้าใจยิ่งใหญ่

  คนจน   (จนแต่รวยนํ้าใจ)
  ใครจะว่ายากจน   (คนจนผู้ยิ่งใหญ่)
  (คนจน)   จนแต่รวยนํ้าใจ
  (ใครจะว่ายากจน)   คนจนผู้ยิ่งใหญ่

            มีชีวิตย่อมมีความลําบาก
            อดๆ   อยากๆ   ดังยาชูกําลัง
            คามหวังแม้ว่ายังริบหรี่
            เพราะสังคมวันนี้มันหางานการยาก

ยํ่าไปสมัครไปไม่เลือกหน้า
ค่าจ้างราคาไม่สํามะคัญ
ลุยควันลุยท่อไอเสีย
มีแต่ความอ่อนเพลีย ยังดีกว่าเสียขากัน
 
            ปัจจัยคือเครื่องบาดใจ
            ศาสดาสอนไว้ในพระไตรปิฏก
            ความจริงที่คู่ควรหยิบยก
            ชําระความสกปรกในสังคมเมืองไทย

จิตใจแห่งความเป็นพุทธ
ใสบริสุทธิ์นั้นคือจุดหมาย
รวยล้นกระทําตนเหลวไหล
ไม่ใช่ผู้ยิ่งใหญ่เป็นแต่ผู้ยิ่งเลว

วันอังคารที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2558

โลกมันกว้างใหญ่ มากกว่าห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆนะ


โลกมันกว้างใหญ่ ก็แค่ออกไปเปิดโลกซะ

หลายคน เถียงว่า search ดูรูปถ่ายสวยๆ ใน internet เอาก็ได้
หลายคน เถียงอีกว่า ดูวีดีโอจาก Youtube ก็ได้เห็นทุกมุมเลย 
หรือ จะอ่านจากรีวิวที่คนอื่นไป ก็ได้ข้อมูลแทบจะหมดทุกสิ่งอย่างละ

ช้าก่อน!!! จริงๆแล้ว ต้องโดนถามย้อนกลับไปว่า
การดูจากรูปภาพหรือวีดีโอหรือรีวิว กับ การไปเห็นด้วยตาตัวเอง
มันแตกต่างกันหลายประการมากมายนัก ดังนี้

1. 
ภาพและเสียง ที่ ได้เห็นและได้ยิน นั้น มันยังขาด บรรยากาศของสถานที่จริง
ทั้ง อุณหภูมิ แสงแดด กระแสลม และการจับต้องได้จริงจากการสัมผัส 

2.
การไปสถานที่จริง เราสามารถพบปะผู้คนที่อยู่แถวๆนั้น
ได้พูดคุยซักถามทั้ง นักท่องเที่ยว และ คนในท้องถิ่น
หรือ บางทีอาจจะได้ใช้ภาษาที่เราไม่ค่อยถนัด จนไปถึงภาษามือเลยก็มี

3.
เราจะได้ลิ้มรสความสนุกของการเดินทางไปยังสถานที่นั้นๆ
บางที่ไปยากเย็นเหลือเกิน บางที่ไปได้อย่างง่ายดาย

4.
เราอาจจะพบเจอกับ เพื่อนใหม่ ที่ชอบอะไรคล้ายๆกัน
หรือ อาจจะพบ คนรู้ใจ จากที่ๆเราไปก็ได้นะ

5.
เราจะได้เป็นคนบันทึกการเดินทางของเราด้วยตัวเองกับสถานที่เหล่านั้น
อาทิ เก็บรูปถ่ายสวยๆ, วาดรูปด้วยมือเราเอง, เก็บเรื่องราวผ่านตัวหนังสือ
การถ่ายวีดีโอเพื่อบันทึกการเดินทาง

วันอาทิตย์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2558

ถึงเวลา...หาตัวเอง


ถึงเวลา ... หาตัวเอง 
by โยโย หนุ่มคิดบวก

คำถามหนึ่งที่เป็นคำถามที่ง่ายๆ แต่ตอบได้ยากมาก
" แท้จริงแล้ว เราอยากทำอะไร และเราอยากเป็นอะไรกันแน่ ??? "

เชื่อได้เลยว่า เป็นคำถามที่หลายๆคน ไม่สามารถตอบได้โดยทันที
และบางครั้ง ถึงมีเวลาให้กลับมาคิด ก็อาจจะไม่ได้คำตอบอะไรเลยเหมือนกัน

หลายคน ... ทำทุกอย่างได้เป็นอย่างดี จะให้ทำอะไรก็ดีไปหมด จนไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วอยากทำอะไร
หลายคน ... จำเป็นต้องทำงานที่ไม่ชอบ เพื่อที่จะหาเลี้ยงชีพให้อยู่รอด มีภาระเยอะแยะไปหมด
หลายคน ... ไม่รู้ว่าควรจะทำอะไร ก็เลยทำงานปัจจุบันไปก่อน หรือทำตามเพื่อน จนกว่าจะคิดได้
 หลายคน ... ต้องทำงานที่พ่อแม่พี่น้องบรรดามี ให้เขาทำ โดยความหวังดีของพวกเขาเหล่านั้น
แต่มีน้อยคน ... ที่รู้ว่าเขาชอบทำอะไร และเลือกที่จะทำสิ่งนั้นโดยไม่ลังเล และไม่ย่อท้อ

--------------------------------
 
คำถามต่อมา ที่เป็นคำถามง่ายๆ แต่ก็ตอบได้ยากอีกเช่นกัน 
" สิ่งที่ชีวิตของเราต้องการจริงๆ มันคืออะไรกันแน่ เราเกิดมาเพื่ออะไร ??? "

จริงๆ คำถามนี้ คำตอบไม่ยากหรอก แต่เรามักหลงลืม และสับสนไปเองมากกว่า
ซึ่งคำตอบของคำถามนี้ แน่นอนเลยว่า

ไม่ใช่ ... เกิดมาเพื่อ หาเงิน แต่ต้องทำงานอย่างหนักเพื่อให้ได้มีเงินเพียงพอกับที่ต้องการ
ไม่ใช่ ... เกิดมาเพื่อ สะสมสิ่งของที่ชื่นชอบ แต่ต้องทำงานอย่างหนักเพื่อให้ได้มีเงินเพียงพอ
ไม่ใช่ ... เกิดมาเพื่อ มีบ้านหลังใหญ่โต แต่ต้องทำงานอย่างหนักเพื่อให้ได้มีเงินเพียงพอที่จะซื้อ
 ไม่ใช่ ... เกิดมาเพื่อ ได้เป็นหัวหน้าตำแหน่งใหญ่โต แต่ต้องทำงานอย่างหนักเพื่อให้ได้การยอมรับ
แต่มันคือ ... เกิดมาเพื่อ หาความสุข จากการได้ใช้ชีวิตต่างหากล่ะ

---------------------------------

แล้วคำถามถัดมาอีก ซึ่งเป็นคำถามที่สำคัญที่สุด  ก็คือ
" แล้วตัวของเราต้องทำอะไร เพื่อที่จะได้มา ซึ่งความสุข ที่แท้จริงละ ??? "

คำตอบก็คือ " ถึงเวลา ... ค้นหาตัวเอง " แล้วละ

แล้วเราจะค้นหาตัวเองได้อย่างไร มีวิธีการอย่างไรบ้าง
วิธีที่ง่ายที่สุด ทำได้โดย ใช้กระดาษ 2 แผ่น กับ ปากกาหรือดินสอ เพียง 1 แท่ง
ขอให้ไปในสถานที่ๆ ไม่มีการรบกวนจากคนอื่น ให้ได้ใช้ความคิดอย่างมีสติ

กระดาษแผ่นที่ 1 
- ขีดเส้นตรงแนวนอนเพื่อแบ่งกระดาษออกเป็น 10 ส่วนเท่าๆกัน 
- ให้เขียนสิ่งที่เราทำแล้วมีความสุข เลือกมา 10 อย่าง ให้ชิดด้านซ้ายของกระดาษ
- ให้เขียนทักษะที่จำเป็นต่อสิ่งที่เราทำแล้วมีความสุขแต่ละข้อ ทางด้านขวาของกระดาษ
- เลือกสิ่งที่เราทำแล้วมีความสุขที่สุดจากทั้ง 10 ข้อ มาเขียนเพียงข้อเดียว ด้านหลังกระดาษ
(นั่นแหละ คือ สิ่งที่คุณอยากทำที่สุด และ เป็นสิ่งที่ทำให้คุณมีความสุขที่สุดด้วย)

กระดาษแผ่นที่ 2
- ให้เรามาวิเคราะห์ตัวเอง และเขียนลงไปว่า เรามีทักษะอะไรบ้างในตอนนี้
เพื่อจะได้รู้ว่า เรายังขาดอะไร ถึงจะสามารถทำในสิ่งที่ดีที่สุดนั้นได้
- ให้เขียนว่า เราจะทำอย่างไร ถึงจะทำสิ่งที่เรามีความสุข และรับใช้คนให้ได้มากที่สุด
(เพื่อให้รู้ชัดว่า เป้าหมายที่เราควรจะไป จะได้ไปไม่ผิดทาง)

สุดท้าย 
- ก็ติดกระดาษทั้งสองแผ่นนี้ไว้ที่จุดที่เห็นได้ชัดเจน ในพื้นที่ของตัวเราเอง
- ยังไม่ต้องไปบอกใครว่าเราจะทำอะไร เพราะ อาจจะมีคนมาขัดขวางเราได้นะ
- ให้เริ่มทำไปทีละนิด เริ่มวันนี้และทำเดียวนี้ ไม่ต้องรอให้พร้อม ทำไปแก้ไขไป

วันเสาร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2558

ปลาที่แข็งแรงกว่า มักจะได้อยู่ด้านหน้าและได้อาหารทานก่อน


ปลาที่แข็งแรง มีสองความหมาย
1. แข็งแรงทางกายภาพ นั่นคือ ตัวใหญ่ ว่ายได้ไว รวดเร็ว เป็นต้น
2. แข็งแรงทางมโนภาพ นั่นคือ มีความฉลาดปราดเปรือง รู้ว่าต้องทำอะไร

รูปนี้ ถ่ายที่ วังปลา จ.แม่ฮ่องสอน
สิ่งที่ผมได้เห็นและตระหนักรู้ ก็คือ จะมีปลาที่ได้กินอาหารก่อน จากการให้อาหารของนักท่องเที่ยว
ณ จุดที่อาหารปลาลงไปในน้ำ จะมีปลาอยู่แค่กลุ่มหนึ่ง ที่ได้กินก่อน กินจะอิ่ม แล้วค่อยออกไป

ผมมาวิเคราะห์เล่นๆ ถ้าเอาความรู้ที่มี ด้านการจัดการจาก MBA ที่ได้เรียนมา
สิ่งที่ทำให้ปลากลุ่มหนึ่ง ได้ทานอาหารก่อนปลาอีกหลายๆตัว ก็คือ

1. ทำเล 
>> ถ้าว่ายใกล้ๆ จุดที่มีการให้อาหารปลาบ่อยๆ ยังไงก็มีโอกาสมากกว่าตัวอื่น
การเลือกทำเลของปลา อาจจะเป็นประสบการณ์ เพราะปลาไม่มีการทำสถิติแบบมนุษย์
>> เหมือนกับการทำธุรกิจของเรา ถ้าเลือกทำเลดี ก็มีโอกาศได้ลูกค้าเยอะกว่า
เพราะ คนเรามีนิสัยรักสบาย เอาที่สะดวกว่า ดังนั้น จุดที่ใกล้ๆกับจุดขายอาหารปลา
มักจะเป็นจุดที่คนจะโยนอาหารปลาลงไปบริเวณนั้นๆ

2. ต้องมีคุณบัติที่เหมาะสม
>> ปลาที่มีคุณสมบัติทางกายภาพ และ มโนภาพ ที่ดีกว่า มักจะได้เข้าถึงอาหารก่อน
>> คนที่มีคุณสมบัติที่เหมาะสมกว่า มักจะได้ไปถึงความสำเร็จก่อนคนอื่นๆ เฉกเช้นเดียวกัน

3. หาพันธมิตร ร่วมกันไปสู่เป้าหมาย
>> จุดที่คนจะให้อาหารปลา มักจะเป็นจุดที่ต้องมีปลาว่ายอยู่บริเวณพอสมควร
นั่นคือ ถ้ามีปลานั้นในแถวๆนั้น เขาก็อาจจะไม่โยอาหารให้ก็เป็นไปได้
ยิ่งจุดไหนที่มีปลาชุม คนยิ่งอยากให้อาหารปลาตรงนั้น 
เพื่อที่จะได้มองดูฝูงปลากำลังกินอาหารที่ตนเองนั้นให้ไป
>> เปรียบกับ คนที่สำเร็จ มักจะต้องมีเพื่อนร่วมทางที่ดีด้วยเสมอๆ
ไม่มีใครสามารถทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ให้สำเร็จได้โดยลำพัง ได้โดยง่าย
ดังนั้น การที่เรามีพันธมิตรในการประกอบกิจต่างๆ จึงเป็นการช่วยให้เราไปสู่ความสำเร็จได้





วันพฤหัสบดีที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2558

ยินดีที่ไม่รู้จัก


ยินดีที่ไม่รู้จัก
 
กับบางคน ... เห็นครั้งแรก ก็รู้สึกดีตั้งแต่แรกเห็น
กับบางคน ... เห็นครั้งแรก ก็ติดตาจดจำได้ยาวนาน
กับบางคน ... เห็นครั้งแรก ก็อดยิ้มไม่ได้โดยไม่มีสาเหตุ
กับบางคน ... เห็นครั้งแรก ก็ทำให้มีความสุขด้วยความยินดีแม้ไม่ได้รู้จักกัน





วันอังคารที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2558

ปราสาทเจดีย์สวรรค์ บนดินแดนของมนุษย์


จิตรกรรม ปฏิมากรรม และ สถาปัตยกรรม

แท้จริงแล้ว ศิลปะ ไม่ได้มีความสำคัญอะไรเลยสำหรับโลกมนุษย์

แต่ ศิลปะ จะช่วยจรรโลงและแสดงความเจริญของอารยธรรมมนุษย์ในแต่ละยุคสมัย

นั่นเพราะ ผลงานศิลปะจะสะท้อนความนึกคิดของศิลปินในยุคสมัยนั้นๆ

แต่ก็มีหลายศิลปะ ที่ถูกครอบงำโดยศิลปะในยุคโบราณที่พวกเขาชื่นชอบ

ดังนั้น ศิลปะ ที่เราพบเจอกันทุกวันนี้ จะมีทั้งที่โดนครอบงำความคิดโดยสิ่งที่ศิลปินชอบ

และจะมีในแบบที่เกิดจากแรงบัลดานใจของศิลปิินคนนั้นเอง ซึ่งมีจำนวนไม่มากนัก

เรื่องนี้ แท้จริงก็เหมือนเรื่องต่างๆในชีวิตประจำวันของเราๆ

ทุกสิ่งทุกอย่างที่คนหนึ่งคนทำ มักจะโดนอิทธิพลครอบงำจากอะไรบางอย่างเสมอ

ส่วนใหญ่จะเกิดจาก บุคคลที่เขาชอบ จากสิ่งที่เขาโปรดปราน

มีอยู้น้อยรายที่เกิดจาก การจำใจต้องทำเพราะความอยู่รอด และ อิทธิพลจากตัวเขาเอง

คนที่ทำงานโดยอิทธิพลจากตัวเขาเอง หรือ PASSION ในสิ่งที่เขาทำ

พวกเขามักจะเป็นบุคคลที่ประสบความสำเร็จ หรือโด่งดังในสังคม

ดั่งปราสาทเจดีย์สวรรค์ 7 ชั้น ดังรูปนี้ ที่เป็นแรงอิทธิพลจากความเชื่อทางศาสนา

จึงผลักดันให้เกิดการก่อสร้างสิ่งที่น่าอัศจรรย์อย่างนี้บนโลกใบนี้

ดังนั้น หา PASSAION ของตัวคุณเองให้เจอ แล้วใช้ชีวิตตามความสุขนั้นซะ

วันศุกร์ที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2558

กฏแห่งยักษ์ที่หลับไหล


ยักษ์ เปรียบเปรยได้กับ พลังอำนาจอันยิ่งใหญ่

กฏความจริงแห่งจักรวาลข้อหนึ่งที่หลายคนรู้แต่มักหลงลืมและมองข้าม
นั่นคือ ทุกคนมี ยักษ์ ที่หลับไหล อยู่ในตัวเองเสมอ

 ยกตัวอย่างเช่น 
คนที่มีรูปร่างผอมบาง แต่สามารถยกตู้เย็นออกมาได้โดยลำพัง ขณะหนี้ไฟไหม้
คนอ้วนที่ไม่เคยออกกำลังกาย วิ่งได้อย่างรวดเร็ว เมื่อโดนสุนัขไล่กัด
คนที่ต่อสู้ชีวิต ตั้งแต่ติดลบเป็นหนี้สิน จนกลายเป็นมหาเศรษฐี
คนที่ชนะการแข่งขัน ทั้งๆที่เสียเปรียบคู่แข่งขัน

ทั้งหมดทั้งมวลนี้ เป็นแค่ตัวอย่างเพื่อให้พอเห็นภาพว่า
ทุกคนบนโลกนี้ มีพลังแฝงที่ใหญ่ยิ่งอยู่อย่างแท้จริง ไม่ใช่แค่ในภาพยนต์ Super Hero

สิ่งที่ทำให้ผมเชื่อกฏแห่งยักษ์ที่หลับไหล
 นั่นเพราะ ยิ่งเราศึกษาชีวประวัติบุคคลที่ประสบความสำเร็จระดับโลกหลายต่อหลายคน
สิ่งที่มีเหมือนกันคือ การต่อสู้ฝ่าฟันกับอุปสรรค์ ที่ดูจะโหดร้ายเสียเหลือเกิน
แต่ท้ายสุด พวกเขาก็ใช้พลังที่หลับไหล และผ่านมันมาจนถึงเส้นชัยของพวกเขา
ถ้ายกตัวอย่างคงจะหลายท่านพอสมควร ทั้งคนต่างชาติ และคนไทยเอง
นั่นก็พิสูจน์ได้แล้วว่า เราทุกคนมีพลังที่ยิ่งใหญ่หลับไหลอยู่
เราทุกคนมียักษ์ที่ยังพักผ่อน ซุกซ่อนอยู่ภายใน รอเวลาให้เราไปปลุกให้ตื่น

สุดท้ายนี้ ชีวิตคนเรามันแสนสั้น เวลาเรามีอย่างจำกัด
สิ่งที่จะทำให้เรามีตัวตนอยู่บนโลกใบนี้ 
- ไม่ใช่ ชื่อ-นามสกุล บนหลุมศพ
- ไม่ใช่ ลาภ ยศ สรรเสริญ ที่คนอื่นมอบให้
- ไม่ใช่ บ้านหลังโต รถคันงาม หรือ สิ่งก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่

แต่มันคือ ตัวตน ของคุณ ที่ผ่านออกมาจาก ผลงาน อะไรบางอย่าง
ที่ซึ่ง ก่อประโยชน์ให้คนอื่นๆ บนโลกใบนี้ เพียงเท่านั้นเอง

 

วันพฤหัสบดีที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2558

ประวัติ เทศกาลไหว้พระจันทร์ Moon Festival




เทศกาลไหว้พระจันทร์ หรือ เทศกาลกลางฤดูใบไม้ร่วง

เป็นเทศกาลตามวัฒนธรรมจีนที่มีขึ้นในกลางฤดูใบไม้ร่วง เพื่อเฉลิมฉลองการเก็บเกี่ยว 
จะมีขึ้นในคืนวันเพ็ญเดือน 8 ตามปฏิทินจันทรคติ (เดือนกันยายนตามปฏิทินสากล) 

มีขนมชนิดหนึ่ง เรียกว่า "ขนมไหว้พระจันทร์" (月饼) 
ที่มีสันฐานกลมคล้ายขนมเค้ก ทำจากแป้ง มีไส้ต่าง ๆ เป็นธัญพืช 
ใช้เซ่นไหว้และรับประทานกันจนเป็นเอกลักษณ์สำหรับเทศกาลนี้

ประวัติความเป็นมา
ตำนานหนึ่งที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ ขณะที่ชาวฮั่นถูกปกครองอย่างกดขี่จากชาวมองโกล 
(ราชวงศ์หยวน) ได้มีการก่อกบฏขึ้นของชาวฮั่น ด้วยการแอบส่งสาสน์บอกต่อ ๆ กันในไส้ขนม 
ความว่า คืนนี้เมื่อเวลายาม 3 ให้ทุกบ้านจัดการสังหารทหารมองโกลให้หมด 
อันเป็นที่มาของขนมไหว้พระจันทร์

ข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมในวันไหว้พระจันทร์
1. ถือเป็นวันรวมญาติ จะมีการกินเลี้ยงกันตอนเย็นตามศาลเจ้าต่างๆ
2. ถือเป็นวันที่ได้กินโต๊ะจีน อาหารส่วนใหญ่จะจ้างพวกโต๊ะจีนมาเลย
3. ถือเป็นวันบริจาคเพื่อกิจกกรรมส่วนรวม เห็นมีมาเก็บทุกปี
4. ถือเป็นช่วงที่จะได้กินขนมไหว้พระจันทร์ (Moon Cale) หาซื้อได้ทั่วไป
5. เทศกาลประดับโคมไฟสีแดง สำหรับ คนเชื้อสายจีนทั่วไป

ข้อมูล: wikipedia.org

วันจันทร์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2558

ปราชญ์แห่งยุค 2000 - อ.ถวัลย์ ดัชนี

ผลงานชิ้นหนึ่ง ของ นักวาดรูป นาม อ.ถวัลย์ ดัชนี

รูปนี้จริงๆแล้ว ยอมรับว่าผมดูไม่รู้เรื่องเลย
ผมไม่เข้าใจในความหมายของรูปนี้แม่แต่น้อยนิด แต่ผมรู้สึกได้ถึงพลังบางอย่างในรูปนี้

ผมชอบประโยคหนึ่งของ อ.ถวัลย์ ดัชนี ที่พูดว่า
" ศิลปะ ไม่จำเป็นต้องอธิบายด้วยเหตุผล แต่จงรู้สึกถึงมัน ก็เพียงพอแล้ว
เพราะทั้งสองอย่างนั้น มันใช้สมองคนละซีกกัน จึงไม่จำเป็นต้องใช้สมองซีกตรรกะมาอธิบายศิลปะ"

ผมต้องยอมรับอีกเรื่องหนึ่ง ผมตามดูวีดีโอเกี่ยวกับ อ.ถวัลย์ ทุกอันที่หาเจอใน youtube
ผมนั่งดู ซ้ำไปซ้ำมา อยู่หลายรอบ ใช้เวลากว่า 1 อาทิตย์

สิ่งที่ผมรับรู้ได้ทันที คือ อ.ถวัลย์ ดัชนี คือ ปราชญ์ แห่งยุค 2000 อย่างแท้จริง
ท่านมีแนวคิดที่ไม่ยึดติดทั้งวัฒนธรรมตะวันตก หรือ วัฒนธรรมตะวันออก หรือ
วัฒนธรรมแห่งชาติไทยเองก็ตาม 
แต่ท่านหาตัวตน เอกลักษณ์ ความเป็น ถวัลย์ ดัชนี ออกมาได้เต็มรูปแบบ

ใครที่มองงานของ อ.ถวัลย์ ดัชนี จะรู้ได้ทันทีว่าเป็นงานของท่าน แม้ไม่ต้องเซ็นต์อะไรเลย
งานศิลปะทุกชิ้น มีพลัง เป็นงานร่วมสมัย ไม่ลอกงานของใคร
ไม่ได้รับอิทธิพลจากศิลปินดังในอดีต เพราะ ท่านคือปัจจุบัน คือเดี๋ยวนี้ 

การดูงานศิลปะ จึงไม่ต้องมาอธิบายว่า มันหมายถึงอะไร อย่างไร ไม่เน้นที่ความเข้าใจ
เพียงแค่ให้รู้สึก รับรู้จากอารมณ์ สิ่งที่ผ่านขันธ์ 5 ทั้ง รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส

อย่ายึดติดกับรูปแบบ แต่จงเข้าใจในเนื้อหาว่าอะไรคือแก่น ที่ไม่ใช่กระพี้
ไม่ต้องแสดงรูปแบบว่าความเป็นไทยต้องมีอะไรบ้าง หนึ่งสองสามสี่
แต่จงเป็นสิ่งที่ร่วมสมัย จงสร้างสรรค์ ไม่เลียนแบบใคร และไม่โดนอิทธิพลจากสิ่งใด

วันอาทิตย์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2558

สูงสุดคืนสู่สามัญ


สูงสุด คืนสู่ สามัญ

การที่บ้านเมืองเจริญก้าวหน้า ก็จะมีตึกรามบ้านช่อง ตึกสูง และสิ่งก่อสร้างที่ทันสมัยต่างๆ
ยิ่งเจริญมาก ยิ่งมีธรรมชาติลดน้อยลงไป 
สิ่งมีชีวิตต่างๆ ถือกำเนิดขึ้น เพื่อที่จะอยู่ร่วมกับธรรมชาติ
แต่เพราะระบบทุนนิยม ใครขายอะไรได้ก็ขายกันไป
พวกเราต่างถูกนายทุนหลอกให้ต้องใช้สิ่งที่เขาสร้างขึ้นมาเพื่อการดำรงชีวิต
จนเราชินชากับสิ่งที่นายทุนอุปโลกว่าจำเป็นต่อชีวิต เราใช้มันอย่างไม่ทันคิด
สุดท้าย เราก็จะขาดมันไม่ได้ 
ซึ่งแท้จริงแล้ว เมื่อก่อนหน้านั้นคนเราก็ไม่จำเป็นต้องใช้สิ่งต่างๆเหล่านั้น

เมื่อคิดได้ดังนี้แล้ว
ผมก็มักจะหาเวลาว่าง ซึ่งก็มีเสมอๆ
นำตัวเอง...ไปใช้ชีวิตกับธรรมชาติที่ไม่มีการปรุงแต่ง
นำตัวเอง...ออกจากสิ่งที่นายทุนอุปโลกว่าคนเราต้องมีต้องได้มันมา
นำตัวเอง...กลับสู่ความเรียบง่าย ไม่สลับซับซ้อน
นำตัวเอง...จากจุดที่สูงสุด เพื่อคืนสู่ จุดที่เป็นสามัญธรรมดา

ท่านเองละ ยังอยู่ ณ จุดใด
ท่านคิดได้เห็นแจ้งเมื่อไร ก็ใช้ชีวิตตามที่ปราถนาเทอญ

จากใจ
หนุ่มคิดบวก

วันพฤหัสบดีที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2558

The Hero ตอน การวาง Positioning ของ Personal Brand


The Hero ตอน วีระบุรุษผู้พิทักษ์ความสกปรก

หลายครั้ง มีคนกลุ่มหนึ่ง ต้องทำงานที่เป็น การปิดทองหลังพระ
คือ ถึงจะทำดีแค่ไหน ก็ไม่มีใครรู้ใครเห็นสักเท่าไร
เพื่อให้ คนอีกจำนวนหนึ่ง ได้อยู่อย่างสุขกายสบายใจ

อาชีพ ผู้รักษาความสะอาดบนถนนหนทาง หรือที่เรียกกันว่า คนกวาดขยะ
เป็นอาชีพที่ปิดทองหลังพระ ที่น้อยคนจะรู้ว่ามี หรือให้ความสนใจ
แต่ถ้าไม่มีพวกเขาเหล่านี้ บ้านเมืองก็จะสกปรกและเต็มไปด้วยขยะต่างๆ

ทุกคนมีความสำคัญในระบบของสังคม เพียงแค่ว่าจะเป็นตัวกลไกใดของที่แห่งนั้นๆ
คนที่เลือกตัวเองไปเป็นกลไกที่สำคัญ หรือ หัวใจของระบบ 
ก็จะมีความก้าวหน้ารวดเร็ว มีการยอมรับจากในสังคม 
ส่วนคนที่เลือกไม่ได้ ต้องมาทำในส่วนที่เป็นการปิดทองหลังพระแบบนี้
ก็จะไม่มีคนรับรู้ และอาจจะละเลยไปเลยก็เป็นได้

การเลือกวาง Position ของตัวเองให้ไปอยู่ที่ตำแหน่งใด 
ก็จะมีผลต่อชีวิตหลังจากนั้น อีกมากมายก่ายกอง
ทางเลือกของทุกคนมีแค่ 2 ทางเท่านั้น
1. เติบโตอยู่ในระบบเดิม
2. ย้ายออกไปเติบโตที่ระบบใหม่

 จะเลือกทางใด ก็มีข้อดีข้อเสียเหมือนกันทั้งสิ้น
ดังนั้นเลือกเอาที่เหมาะสมกับตัวเราเองมาที่สุดดีกว่า
อย่าเอาหลัก How-To ต่างๆมาใช้โดยไม่ปรับให้เหมาะสมกับตัวเราก่อนละ

วันศุกร์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2558

การพนัน มันอยู่ในสายเลือดคนทุกเชื้อชาติ

คนขายหวย ที่ไต้หวัน ย่านซีเหมินติง

เมื่อไม่นานมานี้ หนุ่มคิดบวก ได้ไปเที่ยวเมืองไทเป ประเทศไต้หวัน
แล้วก็ไปเจอกับ อาชีพสุดคลาสสิค นั่นคือ  

คนขายหวย หรือ คนขายล๊อตเตอรี่

ซึ่งถือได้ว่า เป็นอาชีพสุจริต ที่ทำกันมานานนม และมีแทบทุกประเทศบนโลกนี้
เพราะว่า ไปเที่ยวที่ไหนๆ เขาก็มีขายกัน
ทั้งของรัฐ ของธนาคาร หรือแม้แต่ของใต้ดินเอง
รางวัลมากน้อยก็แล้วแต่ ชุมชน สังคม และ สถานที่นั้นๆ

ซึ่งจะว่าไปตามเนื้อผ้าแล้ว การพนัน มันมีมานานมากแล้ว
ไม่รู้ว่าเริ่มต้นมาจากที่ไหน แต่ต้องมาจากกการที่มีคนสองคนขึ้นไป
มีความเห็นไม่ตรงกัน และเพื่อต้องการให้เกิดความสนุกสนาน
หรือ บ้างก็เพื่อต้องการที่จะได้ในรางวัลก้อนงาม
หรือ เกิดจากการต้องการที่จะเสี่ยงโชค
จึงมีการพนันขันต่อกันเกิดขึ้น

ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันกีฬาต่างๆ
หรือ การเล่นหวย เล่นล็อตเตอรี่
การส่งชิ้นส่วนสินค้าเพื่อไปชิงโชค
ตลอดจน การเล่นการพนันแบบเป็นเรื่องเป็นราวในบ่อนคาสิโน

จะด้วยเหตุผลใดก็แล้วแต่ 
การพนัน ก็เข้ามาอยู่ในวิถีชีวิตของคนเราอย่างหลีกเลี่ยงได้ยาก
ทั้งที่ถูกต้องด้วยกฏหมาย หรือ แม้จะผิดกฏหมายก็ตามที

แต่การพนันที่เราเล่นแค่พอสนุก เป็นสิ่งที่จะค่อยๆฝังตัวลงไป
เมื่อเราเกิดที่อยากจะได้ของที่เราเสียไปกลับคืนมา เราก็จะยิ่งทุ่มลงไป
หลายคนต้องติดหนี้ก้อนโต เพราะการพนัน

 ดังนั้น ด้วยความปราถณาดี จงอย่าริเริ่มที่จะเล่นการพนัน
มิเช่นนั้น คุณอาจจะพบกับความบัดซบของชีวิตมากกว่าถูกไฟไหม้บ้าน

ถ้าไม่เชื่อ ... มาพนันกันไหมละครับ

วันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2558

สิ่งก่อสร้าง มีผุพังบุบสลาย ... สิ่งมีชีวิต ก็เช่นกัน


สิ่งก่อสร้าง มีผุพังบุบสลาย ... สิ่งมีชีวิต ก็เช่นกัน

เห็นรูปนี้ทำให้นึกถึงเรื่อง ทุกอย่างมันมีระยะเวลาของมัน
แม้แต่สิ่งก่อสร้างที่ใหญ่โต ดูแข็งแรงทนทาน 
แต่เมื่อถึงเวลาของมัน ก็มีแต่จะ เก่าแก่ และ ทรุดโทรม
  
สิ่งมีชีวิตต่างๆ ก็เป็นเช่นเดียวกัน
เมื่อถึงเวลา ก็เจ็บป่วย และ ล้มหายตายจากไป

ไม่เว้นแต่สิ่งที่คนอุปโลกขึ้นมาบนโลกใบนี้
ทั้งชื่อเสียง เงินทอง เกียรติยศ หัวโขน องค์กรบริษัท และความสำเร็จต่างๆ
เมื่อถึงระยะเวลาของมัน ก็จะค่อยๆเลือนหายไป

ดังนั้น
พึ่งใช้ชีวิตอยู่ในช่วงเวลาปัจจุบันที่เราหายใจ
ไม่จนอยู่กับ สุขและทุกข์ จากในอดีตกาล
และไม่คาดหวัง สุขและทุกข์ จากในอนาคตกาล

มีชีวิตอยู่ด้วยความไม่ประมาท
ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองอยากจะทำในทุกๆวัน
ได้ทำตามความฝัน ก้าวเล็กๆไปทีละก้าว หรือ ก้าวยาวๆถ้าใครทำไหว
อยู่กับคนที่เรารักและรักเรา ได้ใช้โมงยามแห่งชีวิตร่วมกันอย่างมีความมหาย
อย่าได้เสียเวลาไปกันความฝันของคนอื่น
พร้อมทั้งไม่เสียเวลาทนทุกข์จากสิ่งที่คนอื่นตั้งใจจะยัดเยียดให้

วันศุกร์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2558

ยิ้มสยาม ... งดงาม และ ความหมายชัดเจนในตัวเอง


ยิ้มหวานจากสาวชาวไทลื้อ

งานไทลื้อ ที่จัดประจำทุกปี ของ อ.เชียงคำ จ.พะเยา
จัดประจำทุกๆปี ช่วงเดือน กุมภาพัน - มีนาคม ระยะเวลาประมาณ 1 สัปดาห์
ถือเป็นงานระดับประเทศ ที่มีชาวไทลื้อ มาชุมนุมกันมากมายจากหลายๆที่ทั่วเมืองไทย

มีการเดินขบวน การแสดงฟ้อนรำ และอาหารแบบไทลื้อเอง
เป็นงานที่น่าสนใจ ไม่แพ้ งานผีหัวโขน เมืองเลย หรือ งานแห่เทียนเข้าพรรษา เมืองอุบลฯ

รูปนี้ พอดีรู้จักนางแบบ เขาเลยยิ้มให้สวยเลยครับผม
ยิ้มสยามนี่ดีจังเลยนะ รู้สึกชอบมากๆ เวลาเห็นคนไทยยิ้มให้กัน
เป็นภาษาที่ชัดเจน และ สวยงามในตัวของมันเอง

" ยิ้ม "

วันพุธที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2558

รูปภาพที่ดี ต้องสื่อความหมายได้ด้วยตัวมันเอง


รูปภาพที่ดี ต้องสื่อความหมายได้ด้วยตัวมันเอง
หลังจากหนุ่มคิดบวกได้ดูรูปถ่ายมาจำนวนมากมายอยู่ทุกๆวัน
จึงตกผลึกได้ว่า

ภาพถ่ายที่ดี หรือ รูปภาพที่ดี
สิ่งหนึ่งที่ควรมี ก็คือ การสื่อความหมายได้ด้วยตัวของมันเอง
แม้นไม่ต้องมีคำอธิบายใดๆ เลย

ภาพถ่ายที่ดี หรือ รูปภาพที่ดี
 ยังควรจะมีปัจจัยอื่นๆเพิ่มเติมเข้ามาอีก นั่นคือ
- การจัดองค์ประกอบ
- เทคนิคในการถ่ายรูป
- อารมณ์ในรูป





วันเสาร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2558

รอคนแคร์ ... แคร๋คนรอ


หลายครั้ง เราเคยรอคนที่เขาไม่ได้รักเรา แต่เราดันไปรักเขา
หลายครั้ง เราเคยทอดทิ้งคนที่เขารอเรา แต่เราดันไม่ได้รักเขา

ชีวิตของคนเรานี่ก็แปลก !!!

คนที่เราชอบ แม้เราจะพยายามพรีเซนต์ตัวเองแทบตาย เขาไม่ยั๊กกะสนใจเรา
คนที่เราไม่ได้ชอบ ขนาดว่าเราไม่ได้ทำอะไร แถมบางครั้งไปว่าเขาให้เจ็บช้ำน้ำใจ
แต่เขาก็ยังชอบเรา และพยายามทำดีกับเราอีกต่างหาก

โลกนี้ มันช่างแปลกแตกจริง !!!


วันอังคารที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2558

เตรียมบอกลา แก๊สโซฮอลล์ ไม่น่าเกินปลายปีนี้

Copyright Reserved by โยโย หนุ่มคิดบวก

เตรียมบอกลา แก๊สโซฮอลล์ ไม่น่าเกินปลายปี 2558 นี้

จากบทสรุปจากคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ

นายวิฑูรย์ กุลเจริญวิรัตน์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) กล่าวว่า 

กรมได้ประชุมรับฟังความคิดเห็นแผนบริหารจัดการน้ำมันเชื้อเพลิง ปี 2558-79 จากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อรวบรวมความเห็นต่างๆ นำไปปรับปรุงแผนก่อนเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ในเดือนก.ย.นี้ โดยเฉพาะความชัดเจนการยกเลิกการจำหน่ายแก๊สโซฮอล์ 91 หรือ 95 ที่คาดจะสรุปได้ไม่เกินสิ้นปีนี้ เพื่อผลักดันให้เกิดการใช้เอทานอลตามแผน

“การยกเลิกตัวใดตัวหนึ่งต้องมีแน่ แต่จะต้องไม่มีผลกระทบกับผู้บริโภค ไม่ทำให้ภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ซึ่งมี 2 แนวทางคือการบังคับยกเลิกเลย และการใช้กลไกราคาเป็นตัวบังคับใช้ หากมองขณะนี้ก็พบว่ากลุ่มเบนซินนั้นเป็นออกเทน 95 หมด ยกเว้นแก๊สโซฮอล์ 91 หากยกเลิกก็จะทำให้น้ำมันเบนซินพื้นฐานเป็นชนิดเดียวกันหมด และส่งผลกระทบน้อยสุด”

เห็นที ต้องมีนโยบายให้ประชาชนหันมาใช้พวก รถจักรยานและเรือพาย
แทนพวกที่ใช้เครื่องยนต์ที่กินน้ำมันแทนละมั้งครับ
จริงๆแล้ว ประเทศที่เจริญแล้วหลายๆประเทศ เขาก็รณรงค์กันเยอะเลยนะ
อยากให้เมืองไทยให้ความสำคัญกับสิ่งเหล่านี้หน่อย
ไม่ใช่สนับสนุนแต่พวกภาคอุตสาหกรรม ที่หวังผลกำไรต่อบริษัท
เพื่อประเทศไทยที่น่าอยู่ขึ้น และคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งๆขึ้น

ที่มา https://www.yaklai.com/news/thai-news/goodbye-gasohol/

วันจันทร์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2558

Pray For Bangkok

Pray For Thailand

เนื่องจาก เกิดเหตุจราจลของผู้ก่อการร้าย ได้วางระเบิดรถยนต์แล้วไปตั้ง
ไว้ที่แถวย่านชุมชน นั่นคือ แยกราชประสงค์ 
หรือ ที่พวกเรารู้จักกันในชื่อ สี่แยกพระหรหมสี่หน้า
ซึ่งที่นี่ขึ้นชื่อ และมีนักท่องเที่ยวมาสักการะบูชาเยอะทุกวันและตลอดทั้งวัน

จากข่าวที่ออกมา มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตหลายราย จากการระเบิดที่เกิดขึ้น
และหลายฝ่ายคาดว่า สิ่งที่เกิดขึ้นจะทำให้เกิดมีการปล่อยข่าวลือต่างๆตามมา

สิ่งที่ควรปฏิบัติหลังจากเกิดเหตุจราจล คือ
1. ไม่แชร์ข่าวลือต่างๆ ที่ไม่มีที่มา หรือแชร์ต่อๆกันไปโดยไม่ได้ทำการตรวจสอบก่อน
2. อย่าแชร์รูปผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต เพราะจะทำให้สถานการณ์เป็นไปตามแผนของผู้ก่อการร้าย
และ ทำให้คนที่มาเสพข่าวที่หลังอาจจะโดนบิดเบือนจากผู้ที่ต้องการปล่อยข่าวลวงต่างๆ
3. โปรดใช้วิจารณญาณในการเสพสื่อ ไม่ควรเชื่อโดยทันที ต้องตรวจสอบก่อนให้ดี
4. รับกลับไปหา หรือ ติดต่อบุคคลที่คุณเป็นห่วง

วันอาทิตย์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2558

อะไรที่เป็นไปตามแผน คนมักไม่ตื่นเต้น


อะไรที่เป็นไปตามแผนที่วางไว้ มันช่างน่าเบื่อสิ้นดี
วลีเด็ดของจอมอาชญากรรมโจ๊กเกอร์ เรื่อง Batman
คนมักจะตื่นเต้นตกใจ เมื่อเกิด เรื่องที่ไม่ได้คาดคิด ขึ้นมา
ระหว่าง "กลางทาง" ของแผนการ
นั่นคือ การเกิดเรื่องที่ไม่ได้คาดคิดขึ้นมาที่มันไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้

นั่นเพราะ ผู้คนส่วนใหญ่จะมีปฏิกิริยากับการเปลี่ยนแปลงอยู่เป็นทุนเดิม
ยิ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจมาก่อนด้วยแล้ว
การตื่นตระหนก (Panic) จึงเป็นสิ่งที่มักจะเกิดขึ้น

และถ้ายิ่งเป็นสิ่งที่มีผลกระทบต่อพวกเขามากเท่าไร
ความตื่นตระหนกก็ยิ่งเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ

การตื่นตระหนก มักทำให้ผู้คน ขาดสติ และไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไร
ต่อเหตุการณ์หรือสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นนั้น
แม้ว่าพวกเขาจะเป็นผู้เชี่ยวชาญในเรืองที่กำลังเกิดขึ้นก็ตาม

ดังนั้น ผู้นำ หรือ ผู้ที่จะมากอบกู้แก้ไขสถานการณ์ตื่นตระหนกแบบนี้
จะต้องมีสติอยู่กับปัจจุบันให้มากที่สุด จะได้ไม่โดนเหตุการณ์ชักจูง
และต้องมีความสามารถในการดึงคนรอบข้างให้มีสติขึ้นมาด้วย

ทักษะสุดท้าย 
ความเด็ดขาดและความชัดเจน ต้องเป็นสิ่งที่เด่นชัด
เพื่อจะชี้นำทุกคนว่าพวกเขาควรที่จะทำอะไรในขณะนี้
นั่นเพราะ
เวลาที่มีจำกัด และ สถานการณ์แบบได้อย่างเสียอย่าง (Trade off)
จะเป็นตัวกดดันให้สถานการณ์ตรึงเครียดลง
ความชัดเจนและความมั่นใจ จึงเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการอย่างมาก


วันอังคารที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2558

ความรักของแม่


ความรักของแม่

To Mom with Love

นานมาแล้ว ยังมี ใครคนหนึ่ง                       รักลึกซึ้ง ห่วงใย ไม่จางหาย
รักไม่เลิก รักไม่หมด จากหัวใจ                     รักกว่าใคร รักสุดใจ ของใครกัน

ยามแบเบาะ อดนอน ทนกล่อมเกลี้ยง            กล่อมให้นอน ด้วยเสียง ดุจสวรรค์
ทั้งอึฉี่ รดที่นอน เช็ดทุกวัน                           ด้วยมือท่าน อัศจรรย์ มือมารดา

หนูโตขึ้น เอาใจยาก ไม่อยากบ่น                   เข็นหนูจน ไปโรงเรียน เพียรศึกษา
พร่ำสอนให้ เอาใจใส่ ท่องตำรา                    เมื่อเติบใหญ่ วันหน้า จักได้ดี

จนจบการ ศึกษา ปริญญาบัตร                      แม่ก็จัด รถให้ขับ สมศักดิ์ศรี
อยากเรียนต่อ เอ้า! ก็ได้ เพิ่มดีกรี                  บินลัดลี่ สู่เมืองนอก โก้หยอกใคร

ไม่รู้หรอก เงินที่ใช้ แม่เหนื่อยนัก                   ไม่รู้หรอก มือฟูมฟัก จนเติบใหญ่
ไม่รู้หรอก แม่อดทน กว่าผู้ใด                       ไม่รู้หรอก เพื่อลูกไซร้ แม่ตายแทน

กว่าจะรู้ ว่าพระคุณ นั้นยิ่งใหญ่                      กว่าจะเห็น ในหัวใจ ยากสุดแสน
กว่าจะซึ้ง กว่ารู้สึก อยากตอบแทน                 กว่าเห็นค่า ว่าอ้อมแขน แม่สุดดี
 
 
 
ที่มา: DMC.TV
--------------------------------------

 เพลงค่าน้ำนม

 
...แม่นี้มีบุญคุณอันใหญ่หลวง 
ที่เฝ้าหวง ห่วงลูกแต่หลังเมื่อยังนอนเปล
แม่..เราเฝ้าโอ้ละเห่ 
กล่อมลูกน้อยนอนเปลไม่ห่างหันเห ไปจนไกล
..แต่เล็กจนโตโอ้แม่ถนอม
แม่ผ่ายผอมย่อมเกิดจากรักลูกปักดวงใจ
เติบ..โตโอ้เล็กจนใหญ่
นี่แหละหนาอะไร มิใช่ใดหนาเพราะค่าน้ำนม


..ควร คิดพินิจให้ดี
ค่าน้ำนมแม่นี้ จะมีอะไรเหมาะสม 
โอ้ว่าแม่จ๋า ลูกคิดถึงค่าน้ำนม 
เลือดในอกผสม กลั่นเป็นน้ำนมให้ลูกดื่มกิน 
..ค่าน้ำนมควรชวนให้ลูกฝัง
แต่เมื่อหลังเปรียบดังผืนฟ้าหนักกว่าแผ่นดิน 
บวช เรียนพากเพียรจนสิ้น
หยดหนึ่งน้ำนมกิน ทดแทนไม่สิ้นพระคุณแม่เอย ..

 
 
-------------------------------------------